บทที่ 360 สถานการณ์เปลี่ยน
ในซอยก่อนหน้ามีเงาสองแถวแถวละสิบคนยืนอยู่ด้านหลังไอผีแดง บรรยากาศความอันตรายอบอวล ไอผีแดงพูดกับทุกคนไม่หันกลับไปมอง
น้ำเสียงเย็นชาดังขึ้น “เป้าหมายกำลังจะปรากฏตัว อีกเดี๋ยวอย่าปล่อยให้คนในรถรอดไปแม้แต่คนเดียว”
“ครับ!” ทุกคนที่อยู่ข้างหลังเขาตอบอย่างพร้อมเพรียง
บนรถลี่โม่อวี่และครอบครัวไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าการลอบสังหารพวกเขากำลังจะมาถึง
เมิ่งจื่อและเสี่ยวเป้ยยังคงจ้องที่หน้ารถอย่างตั้งใจ บางครั้งพวกเขาก็มองไปที่ด้านหลังผ่านกระจกมองหลัง แต่กลับไม่เจออะไรผิดปกติ
ในขณะที่รถแล่นเข้าซอยจู่ๆลี่โม่อวี่ก็สัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าจางๆผ่านกระจกรถ
ขณะที่เขากำลังจะเตือนก็พบว่าซอยถูกกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งปิดกั้นไว้
เมิ่งจื่อและเสี่ยวเป้ยก็ตอบสนองทันที เมิ่งจื่อรีบเหยียบเบรกแล้วดึงปืนพกออกมา พวกเขาสองคนพกปืนพกสี่กระบอก แล้วส่งปืนให้ลี่โม่อวี่กับฉินอีหลิน บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้น
มีคนด้านละสิบคนล้อมหน้าและหลัง แต่ไอผีแดงกลับไม่ปรากฏตัว เขาซ่อนตัวอยู่ในเงามืดเตรียมจะปล่อยไม้ตาย
เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามไม่มีอาวุธปืนมีเพียงมีดสั้นในมือ พวกเขาพยายามอยู่ไม่ไกลจากกัน แต่ทั้งสี่คนก็มั่นใจว่าพอพวกเขาทั้งหมดพุ่งเข้ามาจะสามารถฆ่าด้วยอาวุธปืนได้ทั้งหมด
หลงจิ่นเซวียนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงมีสีหน้าสงสัย
ฉินอีหลินปลอบ “จิ่นเซวียนเด็กดี เดี๋ยวหนูหมอบในรถนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามส่งเสียงเข้าใจมั้ย?”
หลงจิ่นเซวียนพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง จากนั้นฉินอีหลินก็เปิดเผยเจตนาฆ่าที่ไม่ได้เปิดเผยมานาน หลังจากคนกลุ่มถูกไล่ล่าจนจนตรอกเช่นนี้ ลี่โม่อวี่ยังคงได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ก็ศัตรูมาอีกแล้วทำให้ฉินอีหลินโกรธ
“เมิ่งจื่อ เสี่ยวเป้ย พวกนายจัดการด้านหลัง พวกเราจะรับผิดชอบด้านหน้า” ลี่โม่อวี่สั่ง ทั้งสี่คนลงจากรถอย่างรวดเร็วแล้วล็อกประตูอย่างระมัดระวัง
ทันทีที่พวกเขาลงจากรถแล้วยกปืนขึ้นเตรียมยิง เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น! ทันใดนั้นระเบิดควันสองชิ้นถูกโยนออกมาจากทางศัตรูทั้งสองข้างทำให้ควันลอยคลุ้งเต็มซอย
ทันใดนั้นคนทั้งสองด้านก็เริ่มเคลื่อนไหว พวกเขาถือใบมีดสั้นวิ่งเข้าหาทั้งสี่คนด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
ควันส่งผลต่อการมองเห็นของพวกเขาทั้งสี่คน ลี่โม่อวี่ขมวดคิ้วแน่น เขาไม่ได้ยิงทันทีแต่มองหาโอกาส
ลี่โม่อวี่กับฉินอีหลินไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด ยังไงซะทั้งคู่ก็เคยผ่านเรื่องเหล่านี้มามาก ปืนยังอยู่ในมืออย่างมั่นคง
“ปัง!” ในขณะที่กระสุนนัดแรกของลี่โม่อวี่ยิงออกไป อีกสามนัดก็ตามมาติดๆ แม้ว่าทัศนวิสัยจะได้รับผลกระทบ การก้าวเท้าของศัตรูมีความคล่องตัวมาก แต่ในระยะใกล้ๆก็ต้องมีคนที่ถูกยิงเสมอ
ลี่โม่อวี่กับฉินอีหลินล้มลงศัตรูได้ครึ่งหนึ่ง แต่กระสุนในมือของพวกเขาก็หมดแล้วเช่นกัน
เมิ่งจื่อและเสี่ยวเป้ยก็ฆ่าได้สี่คน แสดงว่าทักษะของศัตรูนั้นดีมากๆ
เมื่อไม่มีกระสุนศัตรูก็วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เมิ่งจื่อและเสี่ยวเป้ยรีบสู้กับศัตรูทันที เพราะอีกฝ่ายมีอาวุธเมิ่งจื่อกับเสี่ยวเป้ยจึงไม่สามารถต้านทานได้
แต่ทว่าลี่โม่อวี่กับฉินอีหลินดูแตกออกไป ทั้งคู่เคยฝึกฝนทักษะนี้มา เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู 5 คน ลี่โม่อวี่สามารถจัดการ 3 คนอย่างสบายๆ
และตอนนี้ยังคงได้เปรียบ ฉินอีหลินต้องเผชิญหน้ากับศัตรู 2 คน จึงทำให้ได้เปรียบอย่างมาก
แต่ทว่าข้างบนซอยมีสายตาคู่หนึ่งมองสถานการณ์การต่อสู้อย่างโหดเหี้ยม
ไอผีแดงไม่คิดว่าศัตรูจะจัดการยากขนาดนี้ เมื่อมองทั้งเก้าคนที่ล้มไป เขาจับมีดสั้นแล้วกำแน่นอย่างไม่รู้ตัว
ไอผีแดงรู้ว่า หากตอนนี้ยังไม่เจอจุดอ่อนของคู่ต่อสู้แล้วรีบตัดสินใจเข้าไปต่อสู้ พวกเขาเหล่านี้ก็จะไม่สามารถยืนหยัดได้นาน
ความจริงไอผีแดงยังซ่อนกลอุบายไว้อยู่ พอริมฝีปากเขาเปิดขึ้นเล็กน้อย ทันใดนั้นเสียงผิวปากเสียงแหลมก็ออกมา
นักฆ่าทั้ง 11 คนที่เคยต่อสู้กับลี่โม่อวี่มาก่อนก็กลืนยาเม็ดเข้าปากอย่างไม่ลังเล
นี่คือเม็ดยาที่ทำลายศักยภาพร่างกายมนุษย์ หลังจากกลืนเข้าไปจะมีพลังระเบิดในเวลาอันสั้น แน่นอนว่าผลข้างเคียงร้ายแรงมากๆ
ลี่โม่อวี่ที่เดิมถือไพ่เหนือกว่าก็รู้สึกกดดัน ฝั่งตรงข้ามทั้งสามคนตรงหน้าถือมีดสั้นพุ่งเข้ามาหาเขาราวกับพายุอย่างไม่คิดชีวิต
ศัตรูไม่สนใจการโจมตีของลี่โม่อวี่ ลี่โม่อวี่ต่อยหน้าอกของคนคนนั้นด้วยหมัด เขาได้ยินเสียงซี่โครงหัก แต่ไม่คิดเลยว่าศัตรูจะทำเหมือนไม่เป็นอะไร แล้วฟันมีดเข้ามาต่อ
เมื่อเทียบกับลี่โม่อวี่ ความกดดันของเมิ่งจื่อและเสี่ยวเป้ยนั้นมากยิ่งกว่า หลังจากที่ศัตรูกลืนยา พวกเขาก็อยู่ในสภาพพ่ายแพ้ มีหลายต่อหลายครั้งที่พวกเขาก็ตกอยู่ในอันตรายนับครั้งไม่ถ้วน
ฉินอีหลินก็ค่อยๆเสียเปรียบ ความพ่ายแพ้เป็นเพียงเรื่องของเวลา
ลี่โม่อวี่ป้องกันพลางสังเกตสถานการณ์การต่อสู้
ทันใดนั้นเสี่ยวเป้ยก็เดินโซเซ ศัตรูแทงท้องของเขาด้วยมีด ในช่วงวิกฤตนี้เมิ่งจื่อพุ่งไปข้างหน้าคว้ามีดอย่างไม่สนอะไรทั้งนั้น แต่แรงส่งของมีดยังคงแทงเข้ามา เมิ่งจื่อผลักเสี่ยวเป้ยแล้วใช้ตัวเองขวางมีด
“ฉึบ!”
ใบมีดพุ่งเข้าช่องท้องของเมิ่งจื่อ แต่ด้วยความที่เมิ่งจื่อเอามือขวาจับเอาไว้ทำให้มีดไม่ได้แทงทะลุอีกฝั่งของร่างกาย
“เมิ่งจื่อ!” เสี่ยวเป้ยที่ถูกผลักลงพื้นตะโกนเสียงดัง!
ลี่โม่อวี่กับฉินอีหลินพบว่าที่ด้านหลังเกิดเรื่องผิดปกติ แต่เพราะการโจมตีของศัตรูทำให้พวกเขาหลุดออกปไม่ได้
คนคนนั้นต้องการดึงใบมีดที่แทงร่างเมิ่งจื่อออกมา แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน เมิ่งจื่อก็ไม่ยอมให้ใบมีดหลุดออกมา
เลือดไหลออกมาจากมุมปากของเมิ่งจื่อ ดวงตาที่แดงเหมือนระฆังทองแดงของเขาจ้องคนตรงหน้า
“ตายซะเถอะ!”
จู่ๆเมิ่งจื่อก็ดึงใบมีดออกมาจากช่องท้องทำให้เลือดพุ่งออกมา
แต่เขาก็ไม่สนใจ เมิ่งจื่อจับใบมีดด้วยมือข้างขวาจากนั้นก็คว้าอาวุธแทงเข้าที่คอของคู่ต่อสู้ที่แววตาซีดเผือดอย่างแรง แววตาของศัตรูมืดลงอย่างรวดเร็วแล้วค่อยๆล้มลง
เมิ่งจื่อยังคงไม่สนความแข็งแกร่ง มือขวาที่ได้รับบาดเจ็บถือใบมีดเปื้อนเลือด เขาคำรามวิ่งไปหาคนที่เหลืออีกห้าคน!
ตอนนั้นเองที่เสี่ยวเป้ยเห็นว่าเมิ่งจื่อทำเพื่อตัวเองมามากมายก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
เขาคำรามแล้วหยิบท่อนเหล็กที่เท้าแล้วเข้าสู่การต่อสู้อย่างไม่สนอะไรทั้งนั้น
ด้านลี่โม่อวี่ที่เห็นทุกอย่างจากมุมตา เขาถอนหายใจในใจ เขารู้ว่าเมิ่งจื่อไม่ไหวแล้ว แต่เขากลับทำอะไรไม่ถูก ความรู้สึกอึดอัดทำให้เขาทรมาน
ตอนนี้ลี่โม่อวี่โจมตีศัตรูอย่างไม่สนอะไรทั้งนั้น
เมิ่งจื่อได้ทำอะไรมากมายเพื่อปกป้องพวกเขา เขาจะต้องทำอะไรบ้าง ศัตรูที่เดิมกำลังได้เปรียบก็ถูกพลังที่เกิดอย่างฉับพลันของลี่โม่อวี่พลิกสถานการณ์