บทที่ 382 เวลาตายของนายมาถึงแล้ว
ลี่โม่อวี่เดิมทีก็เป็นคนที่ไม่โอ้อวดอะไร ปกติก็ไม่ได้ที่จะเปิดเผยอะไรมาก จนมาถึงเวลาที่จะต่อสู้จริงๆ เขาก็จะแสดงตัวตนอีกด้านของตัวเองออกมา
อาโน่เดิมทีเป็นคนที่ไม่ค่อยที่จะชอบคนภาคตะวันออกเท่าไหร่ การที่มาช่วยเขา ก็เป็นเพราะไป๋หลาง แต่ช่วงที่ได้ทำความรู้จักกันนั้น อาโน่รู้สึกว่าคนภาคตะวันออกนั้นมีค่าแก่การที่จะสานสัมพันธ์
ที่นั่งเจ้างาน พวกของหลงเซี่ยวเทียนได้ทานอาหารในงานเลี้ยงเสร็จ ก็ได้ออกไปเงียบๆ ไม่ได้ให้พวกลี่โม่อวี่รู้
วันนี้ตระกูลหลงสัญญาว่าจะเลี้ยงอาหารเครื่องดื่มทั้งหมด ต่อให้เป็นแบบนั้น งานเลี้ยงของสองพันกว่าคนสำหรับตระกูลหลงแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
คนโต๊ะนั้นพอเดินออกไปจนหมดแล้ว โต๊ะของลี่โม่อวี่ก็ได้ห้ามไม่อยู่ เริ่มดื่มอย่างบ้าคลั่ง
เห็นลี่โม่อวี่ที่ดื่มจนไป๋หลางได้หลับไปทุกคนก็ยังไม่ยอมจำนน จากนั้นแต่ละคนก็ไม่เริ่มที่จะแข่งดื่มเหล้ากับลี่โม่อวี่ แต่คิดไม่ถึงว่าเขาก็ยังกล้ารับ
มีแค่หยางเฟิงที่ได้นั่งเรียบๆ อยู่ที่มุมห้อง ในใจได้ยิ้ม พวกเขาไม่รู้ความลับของลูกพี่ ที่จริงแล้วแอลกอฮอล์ทำอะไรลูกพี่ไม่ได้ทั้งนั้น
หน้าของลี่โม่อวี่ได้วางเหล้าอยู่ตรงหน้าทั้งหมดหกขวด และเขาดูไปแล้วก็แค่ได้หน้าแดงเหมือนก่อนหน้านี้เท่านั้น
ลี่โม่อวี่ตอนที่กำลังจะยกแก้วขึ้นมาอีกครั้ง ทุกคนก็ได้พากันโบกมือ เป็นการบอกว่าตัวเองดื่มไม่ไหวแล้ว
ได้มองพวกเขาอย่างหมดสนุก ลี่โม่อวี่ค่อยๆ วางแก้วเหล้าในมือลง
“ฉันลี่โม่อวี่วันนี้ต้องขอบใจพวกนายมากๆ ที่มาช่วยฉันได้!” พูดจบก็ได้ดื่มเหล้าที่แรงในแก้วไปหมด
ทุกคนต่างพากันเธอมองฉัน ฉันมองเธอ ไอ่หมอนี้ก่ะจะดื่มให้พวกเรานั้นตายไปเลยหรือไง เพราะงั้นทุกคนก็ได้วางแก้วเหล้าหมดมือลงกันหมดอย่างไม่ได้นัดหมาย เริ่มปรบมือให้ลี่โม่อวี่
“พวกนายดื่มไปก่อน ฉันไปทำธุระหน่อย” เห็นว่าทุกคนได้มีความสุข เขาก็ได้ออกไปจากห้องอาหาร
ที่รีบออกไปขนาดนี้ ลี่โม่อวี่ไม่ได้ทำเพื่ออย่างอื่น ได้ทำเพื่อแก้ปัญหาของฉินอีหลินกับหลงหมิงเจ๋อที่นอนอยู่ในโรงพยาบาล
เคาะประตูห้องหนังสือของหลงเซี่ยวเทียน พบว่าไม่ได้ปิดไว้ ในห้องหนังสือมีแค่หลงเซี่ยวเทียนคนเดียว เห็นลี่โม่อวี่เข้ามา เขาก็ไม่ได้มีสีหน้าที่ตกใจ เหมือนรู้อยู่ว่าลี่โม่อวี่จะมายังไงอย่างนั้น
“นั่งสิ” หลงเซี่ยวเทียนได้วางแก้วชาที่ชงเสร็จลงเป็นการบอกว่าให้ลี่โม่อวี่นั่งลง
คนที่ถูกเชิญนั่งได้ยินก็ได้นั่งลงอย่างให้ความร่วมมือ จากนั้นมองหลงเซี่ยวเทียนไม่ได้พูดอะไร
“นายไม่พูดอะไรฉันก็รู้ อยากจะพาอีหลินกลับฮั๋วเซี่ยใช่ไหม?” หลงเซี่ยวเทียนแกล้งทำเป็นโมโหเล็กน้อย เหมือนว่าไม่อยากให้ลูกสาวของตัวเองไปจากตน
“พ่อครับ พูดตามความจริง คราวนี้ผมก็แค่มาบอกให้ท่านรู้ไว้ก่อนเท่านั้น ผมจำเป็นต้องพาอีหลินกับหมิงเจ๋อกลับฮั๋วเซี่ย” ลี่โม่อวี่ได้พูดออกไปอย่างหนักแน่น
“เห้อ……ผิดที่ฉันเอง ถ้าเกิดฉันไม่ได้พาอีหลินกลับมาตั้งแต่แรกก็คงไม่เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น” หลงเซี่ยวเทียนได้โทษตัวเอง
“พ่อครับ ไม่เป็นไรหรอกครับ หมอได้บอกผมแล้ว อีหลินพวกเขาสองแม่ลูกมีโอกาสที่จะหายดีอยู่สูง แต่ที่สำคัญก็คือเธอต้องได้แรงกระตุ้นจากสภาพแวดล้อมเมื่อก่อนที่เคยอยู่” ลี่โม่อวี่ได้พูดประโยชน์นี้จบในทีเดียว
“นายได้พูดมาขนาดนี้แล้ว งั้นฉันก็ไม่ห้ามนายแล้ว” หลงเซี่ยวเทียนได้พูดออกไป “แต่มีข้อหนึ่งนายต้องฟังให้ดี อีหลินไปทางนั้นแล้ว นายต้องหาหมอที่ดีที่สุดมารักษาพวกเขาสองแม่ลูก”
พอลี่โม่อวี่ได้ยินก็ได้พยักหน้าอย่างให้ความร่วมมือ เขาฟังออกแล้วว่าหลงเซี่ยวเทียนได้ยอมตกลงคำขอของเขาแล้ว เวลานั้นความรู้สึกที่ดีได้มีให้พ่อตามากขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย
“นายเตรียมตัวกลับไปตอนไหน?” หลงเซี่ยวเทียนถามต่อ
“ผมจะจัดการเรื่องทางนี้ก่อน” แววตาของลี่โม่อวี่ก็ได้เปลี่ยนเป็นเยือกเย็นขึ้นมา เขาจะจัดการพวกที่ถูกขังไว้ให้เรียบร้อยก่อน
หลงเซี่ยวเทียนได้ยิน ก็ได้พยักหน้าอย่างเย็นชา สำหรับคนพวกนี้ เขาไม่ได้มีความสงสารหลงเหลืออยู่แล้ว เพราะว่าความผิดที่พวกเขาก่อนั้นไม่อาจที่จะให้อภัยได้ ไม่ว่ายังไงพวกเขาไม่ควรที่จะทำเรื่องพวกนี้กับพวกฉินอีหลินเด็กสองคนนั้น
ก่อนหน้าเพราะว่าดื่มไปไม่กี่แก้ว หน้าของหลงเซี่ยวเทียนก็ได้เหมือนว่าได้เมาเล็กน้อย ลี่โม่อวี่ก็ไม่ได้อยู่รบกวนเขาต่อ
ออกมาจากห้องหนังสือ ลี่โม่อวี่ก็ได้รีบไปที่ห้องพักคนไข้ของโรงพยาบาล ตอนนี้ทั้งใจของเขานั้นได้ถูกคนสองคนที่นอนอยู่ในห้องพักคนไข้กำอยู่แน่น
……
งานเลี้ยงคราวนี้ได้จบลงกับการเมามายของทุกคน และที่ฮั๋วเซี่ย ลี่อานโก๋ได้รับเมลตอบกลับจากสหประชาชาติ
ก่อนหน้าลี่อานโก๋ได้เอาหลักฐานการทำความผิดของนายพลส่งไปให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คนในกระทรวงมีคนรู้จักกับผู้อำนวยการลี่ของฮั๋วเซี่ยคนนี้อยู่
ตอนนั้นไม่พูดอะไรสักคำก็ได้ดูข้อมูลที่เขาส่งมาไปรอบหนึ่ง พอดูจบ คนรับผิดชอบที่ไม่รู้ว่ารับผิดชอบประเทศอะไร ก็ได้อนุมัติทันที อนุมัติให้ลี่อานโก๋ส่งคนมา
ลี่อานโก๋ก็ได้รับคำสั่งอีกอย่างจากสหประชาชาติ ให้เขานั้นต้องวางแผนกับการเคลื่อนไหวนี้ให้ดีๆ ไม่มีทางที่จะเกิดปัญหาแน่นอน
เขาที่ได้รับ “คำสั่ง” จากสหประชาชาติ ลี่อานโก๋ก็ได้โทรไปหาลี่โม่อวี่
“ฮาโหล โม่อวี่” ลี่อานโก๋ไม่ได้รีบพูดเรื่องนี้ออกไป
“ครับพ่อ ผมกำลังจะโทรไปคุยกับพ่อพอดี”
“อืม ลูกว่ามา……”
“ผมได้เจรจากับคนทางนี้เรียบร้อยแล้ว จัดการเรื่องเสร็จ ผมก็จะกลับไปเลย” ลี่โม่อวี่ได้พูดจบอย่างรวดเร็ว
“ที่จริง พ่อก็มีเรื่องจะคุยกับลูก เกี่ยวกับเรื่องของนายพล……สหประชาชาติได้มีคำสั่งมาให้พ่อแล้ว ให้พ่อจัดการทั้งหมด เพราะงั้น……” ลี่อานโก๋ได้หยุดไปอย่างมีเลศนัย
ลี่โม่อวี่ทำไมจะไม่รู้ว่าพ่อของตนนั้นหมายความว่าอะไร เขานั้นก็ได้เริ่มดีใจขึ้นมาทันที พอเห็นว่าตัวการที่เขาได้จับมาได้ทำตัวอวดดีต่อหน้าตน แต่ทำอะไรเขาไม่ได้ เขานั้นอึดอัดมากจริง
“ฮั๋วเซี่ยรับผิดชอบ?” ลี่โม่อวี่ได้ถามลองเชิง ปลายสายได้อืมออกมาเบาๆ
วางสายไป ลี่โม่อวี่คิดไม่ถึงว่า ในที่สุดก็ได้จัดการเขาได้อย่างเปิดเผยสักที ที่จริงในโลกนี้คนดีก็มีอยู่เยอะนะ
ไม่เสียเวลา ลี่โม่อวี่ได้โทรไปหาหลงเซี่ยวเทียน คนที่รับสายพอได้ข่าวนี้แล้วใบหน้าได้เต็มไปด้วยความดีใจ ถ้าไม่ใช่เพราะนายพลนั้นได้อยู่ในมือของทหารรับจ้างของหลงจู แค่ท่าทางที่อวดดีของเขา ดีไม่ดีพวกเขาได้ฆ่ามันไปแล้ว
หลงเซี่ยวเทียนก็ได้สวมเสื้อผ้า แล้วก็ไปทางที่นายพลนั้นถูกควบคุมตัวไว้
เพราะว่าคนของหลงจูได้ไปร่วมงานเลี้ยงทั้งหมด เพราะงั้นก่อนที่จะไปก็ได้เอาไอ่หมอนั้นขังไว้ในกรงกรงหนึ่ง เห็นรูปแบบแล้วเหมือนว่าเมื่อก่อนนั้นได้เอามาขังสัตว์
ลี่โม่อวี่ไม่นานก็ได้มาถึงที่ขังอย่างรวดเร็ว เห็นสภาพที่น่าสมเพชของนายพลที่อยู่ในกรง ลี่โม่อวี่ไม่มีความสงสารให้เลยแม้แต่น้อย
“บอกข่าวดีอะไรให้นายอันหนึ่ง เวลาตายของนายมาถึงแล้ว” ลี่โม่อวี่ได้บอกเขาอย่างรวดเร็ว
เวลานี้ใต้ผมที่ยุ่งของเขา ใบหน้ายังไม่หายบวมเพราะโดนไป๋หลางตบ
ได้เงยหน้าที่เหมือนกับหัวหมูของตนมองไปทางลี่โม่อวี่ จากนั้นก็ได้ส่งเสียงหัวเราะที่เยือกเย็นออกมาอย่างไม่คาดคิด พูดว่า “พวกนายทำแบบนี้ ต้องได้รับโทษจากกฎหมายระหว่างประเทศแน่”
คิดไม่ถึงว่าคนแค่คนเดียวยังกล้าที่จะพูดเรื่องกฎหมายกับแววตาของลี่โม่อวี่ได้เยือกเย็น “ใช่เหรอ? งั้นนับเป็นเกียรติของฉันจริงๆ”