นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น – ตอนที่ 7 อ่านคร่าวๆ ก็จำได้แล้ว

ตอนที่ 7 อ่านคร่าวๆ ก็จำได้แล้ว

เซี่ยซิงซิงเผยรอยยิ้มแห่งชัยชนะออกมา อันที่จริงเธอได้รับแจ้งเตือนตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว แต่เธอเพิ่งมาบอกซูฉิงตอนนี้ นอกจากนี้เธอยังตั้งใจให้พนักงานคนนั้นหยุดด้วย
ทั้งหมดนนี้ถ้าไม่ทำโอทีจนถึงสี่ทุ่มก็เกรงว่าซูฉิงจะทำไม่เสร็จภายในวันนี้แน่นอน ถึงตอนนั้นก็คงจะปวดหลังไปหมดแน่นอน
“จำไว้นะว่าต้องตรวจสอบอย่างระมัดระวังหลายๆครั้ง ไม่สามารถผิดพลาดได้นะ ทุกตัวเลขจะต้องแม่นยำ หากเธอบันทึกหมายเลขใดผิด มันจะนำไปสู่ข้อผิดพลาดในสถิติตอนสุดท้าย”
ซูฉิงเหลือบมองเซี่ยซิงซิงอย่างหงุดหงิด “มีอะไรอีกไหม? ถ้ามีก็บอกมาทีเดียวเลย”
“ไม่มีแล้ว”
“ถ้าไม่มีก็เชิญออกไปได้แล้ว เธอไม่มีงานอื่นที่ต้องทำเหรอไง?”
เซี่ยซิงซิงรู้สึกขายหน้ามากเมื่ออยู่ต่อหน้าพนักงานคนอื่น
แม้ว่าซูฉิงจะเป็นคู่หมั้นของประธานฮ่อ แต่ตอนนี้เธอก็เป็นเพียงเลขาตำแหน่งเล็กๆ แต่เธอเป็นถึงหัวหน้าเลขา กลับมาพูดกับเธออย่างไม่สุภาพเช่นนี้
ก็เป็นแค่เด็กบ้านนอก มีอะไรน่าภาคภูมิใจนักหนา เธอทนไม่ได้กับความหยิ่งผยองของซูฉิง
เซี่ยชิงชิงถลึงตาใส่ซูฉิงหนึ่งที ก่อนจะเดินออกไป
ในใจกลับกำลังด่าว่า “เฮอะ! ค่อยๆทำไปเถอะ อย่าคิดว่าจะพอแค่นี้นะ! ยังมีอย่างอื่นรอเธออยู่อีก! คนอย่างเธอน่ะ ที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอก!”
ซูฉิงจัดเรียงเอกสาร ปกติเธอเป็นคนที่มีความจำดีมาก พูดได้เลยว่าแค่มองผ่านๆ เธอก็จำได้แล้ว หลังจากเข้าใจเนื้อหาในเอกสารแล้ว เธอต้องรู้ว่าข้อมูลคืออะไร ถึงจะเริ่มบันทึกได้
มีขั้นตอนที่ซับซ้อนเล็กน้อย แต่ไม่ยากสำหรับเธอ ไม่นานก็เริ่มชิน ยิ่งทำก็ยิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ
เสียงคีย์บอร์ดอันรวดเร็วของเธอดึงดูดความสนใจของเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ จนเกิดเสียงกระซิบ
“ดูสิ เธอพิมพ์คีย์บอร์ดได้เร็วจริงๆ ฉันว่าฉันเร็วแล้วนะ แต่ฉันก็เทียบกับเธอไม่ได้เลย”
“ตอนแรกก็คิดว่าเธอมาจากชนบท เธอไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้อย่างแน่นอน คิดไม่ถึงเลยว่าตอนทำงานเธอจะชำนาญอย่างนี้”
“นั่นสิ เธอเห็นแล้วใช่ไหม? ช่วงเช้าเธอทำงานได้ดีมาก แม้ว่าเธอจะมาจากชนบท แต่เธอก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์ขนาดนั้น ไม่เช่นนั้นเธอก็คงจะไม่ได้เป็นคู่หมั้นของประธานฮ่อหรอก เพราะยังไงนี่ก็เป็นการตัดสินใจของท่านผู้เฒ่าฮ่อ ประธานฮ่อไม่โง่หรอก”
“แล้วยังไงล่ะ? เธอไม่เห็นเหรอว่าประธานฮ่อไม่สนใจเธอเลย? ต้องมีสักวันแหละที่เธอต้องไปจากที่นี่ และตอนนี้เธอก็ไปทำให้หัวหน้าเลขาไม่พอใจอีก วันนี้เธอก็เลยจงใจสั่งงานที่เหน็ดเหนื่อยนี้ให้กับเธอไงล่ะ วันข้างหน้าต้องผ่านไปอย่างยากลำบากแน่นอน มาดูกันว่าเธอจะทนได้นานแค่ไหน”
“เฮ้อ ช่างเถอะๆ ยังไงพวกเราก็ไม่เกี่ยวอยู่ดี ถ้าไม่ระวังอาจโดนหางเลขไปด้วยก็ได้…”
“…”
ซูฉิงได้ยินเสียงบทสนทนาของพวกเขา แต่เธอก็ไม่สนใจ จดจ่ออยู่กับงานของตัวเอง
เธอทำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เมื่อหิวเธอก็กินขนมที่นำมาด้วยเล็กน้อย เมื่อกระหายน้ำเธอก็ไปชงชามาสักแก้ว ถ้าเหนื่อยเธอเดินไปผ่อนคลายที่ห้องน้ำ
ถึงเวลาเลิกงานในตอนเย็น แต่เนื่องจากวันนี้มีงานเยอะมาก คนส่วนใหญ่จึงไม่รีบกลับ ดังนั้นซูฉิงจึงไปทานอาหารเย็นก่อนแล้วจึงค่อยกลับมาทำงาน
เธอเป็นคนที่จะปล่อยให้ท้องหิวไม่ได้ เธอต้องกินข้าวให้ตรงเวลา
เมื่อเซี่ยซิงซิงรอเธอกลับมา เธอก็ตบโต๊ะอย่างโกรธจัด “ซูฉิง! เธอทำงานเสร็จแล้วเหรอถึงเดินไปที่อื่นน่ะ! ฉันบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่างานพวกนี้ต้องทำให้เสร็จในวันนี้ พรุ่งนี้จะต้องใช่แล้ว แต่เธอกลับเดี๋ยวก็กิน เดี๋ยวก็ไปดื่มน้ำ เดี๋ยวก็เดินไปทั่ว แบบนี้หมายความว่ายังไงกัน! ถ้าไม่อยากทำก็บอกตรงๆ ฉันจะได้ให้คนอื่นทำ ถ้าเธอทำล่าช้า และทำให้บริษัทขาดทุน เธอจะรับผิดชอบไหวไหม?”
เมื่อได้ยินเสียงแว้ดๆ ของเซี่ยซิงซิง ซูฉิงก็ยกมือขึ้นมาแหย่หู “ก็เธอบอกว่าวันนี้ต้องเสร็จ ตอนนี้ยังไม่ทุ่มนึงเลย ฉันรู้ตัวนี่น่า”
“อย่าพูดมากนะ ฉันเห็นเธอทำงานไปไม่เท่าไหร่เอง เธอ…”
เซี่ยซิงซิงไม่ยอมหยุด ซูฉิงจึงตะโกนออกมาว่า “พอแล้ว!”
เซี่ยซิงซิงจึงเงียบไปทันที และก็ทำให้คนอื่นตกใจไปด้วย
ซูฉิงเกลียดเสียงคนเอะอะโวยวายมากที่สุด แต่เซี่ยซิงซิงก็ยังพูดจาน่ารำคาญครั้งแล้วครั้งเล่า “สิ่งที่เธอพูดมาทั้งหมดนี้ ถ้าพรุ่งนี้ฉันทำไม่เสร็จค่อยมาว่ากันก็แล้วกัน ตอนนี้เชิญออกไปจากตรงนี้ได้แล้ว มันเกะกะฉันรู้ไหม? ถ้าเธอยังจะพูดเรื่องไร้สาระกับฉันอยู่ตรงนี้ แล้วสุดท้ายงานไม่เสร็จฉันก็จะบอกว่าเพราะเธอทำให้ฉันทำงานไม่เสร็จ เพราะยังไงสุดท้ายแล้วคนที่ต้องรับผิดชอบก็คือเธอ ไม่ใช่ฉัน ”
เซี่ยซิงซิงตกใจกับคำพูดของซูฉิง และหลังจากที่ได้สติเธอก็รู้สึกไม่พอใจมาก และก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก
“เอาล่ะ เธอ… ตอนนี้เริ่มปัดความรับผิดชอบแล้วใช่ไหม? ได้! ฉันจะรอดูว่าพรุ่งนี้เธอจะทำเสร็จไหม!”
เซี่ยซิงซิงเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ
เธอไม่สามารถระบายกับซูฉิงได้ ดังนั้นเธอจึงไประบายกับคนอื่นแทน “ถ้าวันนี้งานไม่เสร็จ ใครหน้าไหนก็กลับบ้านไม่ได้!”
ซูฉิงยิ้มเยาะ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร และทำงานต่อไป
พนักงานคนอื่นๆทยอยกลับกันไปทีละคน และสุดท้ายออฟฟิศก็เหลือแค่ซูฉิงแค่คนเดียว
เวลา 9:30 น. ซูฉิงก็เคาะแป้นพิมพ์ตัวสุดท้าย และในที่สุดก็ทำงานทั้งหมดจนเสร็จ
ถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะไม่ได้กินข้าวเย็นทำงานจนถึงสี่ทุ่มหรือห้าทุ่มเลย แต่ด้วยประสิทธิภาพของเธอ เธอวางแผนเวลาไว้แล้ว เธอจึงสามารถทำงานเสร็จได้อย่างสบายๆ
ซูฉิงกำลังเก็บ เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากเซี่ยซิงซิง
“อีกนานไหมกว่าจะเสร็จ?”
“ทำเสร็จแล้ว”
“อะไรนะ? เธอแน่ใจนะว่าตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว?”
เซี่ยซิงซิงคิดไม่ถึงว่าเธอจะทำเสร็จเร็วขนาดนี้
ซูฉิงพูดอย่างพยายามอดกลั้นไว้ “ฉันแน่ใจ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันวางแล้วนะ ฉันจะเลิกงานแล้ว”
“ไม่ได้! เธอจะเลิกงานตอนนี้ไม่ได้!” เสียงของเซี่ยซิงซิงดังขึ้นทันที
ซูฉิงหยุดเดินทันที “ทำไม?”
“ฉันเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากประธานเฉิน โดยบอกว่ายังมีข้อมูลที่ต้องเพิ่มเติมเข้าไป ฉันจะส่งให้เธอเดี๋ยวนี้ เธอรอก่อน”
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็ส่งข้อมูลมาให้ฉันเลย รอเธอมาที่นี่มันก็ดึกแล้ว”
“ไม่ได้ เนื้อหามันค่อนข้างซับซ้อน เธอไม่เคยเห็นมันมาก่อน ถ้าผิดพลาดจะซวย เธอรอฉันก่อน ไม่ต้องหงุดหงิด ตอนนี้ฉันถึงบ้านแล้ว แล้วยังต้องรีบกลับไปทำโอทีกับเธออีก เธอยังจะบ่นอะไรอีก แระธานเฉินติดต่อฉันมาอย่างกะทันหัน ฉันจะทำยังไงได้ล่ะ!”
“ฉันรู้แล้ว”

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

Status: Ongoing

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น แปลไทย มีข่าวลือว่าคู่หมั้นของนายน้อยฮ่อ เป็นสาวบ้านนอกหน้าตาขี้เหร่ ไร้การศึกษา และเป็นคนไร้ความสามารถ ในงานเลี้ยง ชูฉิงได้ปรากฏตัวขึ้น และทุกคนก็ต้องตกตะลึง! “ขี้เหร่ตรงไหน!” “ว่ากันว่านักแสดงนำชายยอดเยี่ยมคือน้องชายของเธอ!” “พ่อของเธอเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก!” “และดีไซเนอร์ชื่อดัง loe ผู้ลึกลับ ก็คือเธอ!” ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อความลับทั้งหมดของเธอถูกเปิดออก แต่แล้วยังไงล่ะ หยุนเฉิงก็ไม่ได้ชอบเธอ และในวันนั้นเองตระกูลฮ่อกรุ๊ปก็ได้โพสต์เว่ยป๋ออย่างเป็นทางการว่า “ความสัมพันธ์ตอนนี้ดีมาก และกำลังเตรียมตัวที่จะเข้าพิธีวิวาห์” ทุกคน: “…”! ! !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท