นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 456 ไม่ว่าเธอจะใส่อะไรก็ดูดีไปหมด
“ขอบคุณ”
ซูฉิงพูดขึ้นอย่างสุภาพ ตอนนี้เธออยู่ต่อหน้าคุณปู่และเธอก็ไม่ต้องการที่จะขัดแย้งกับฮ่อเฉียนมากเกินไป แม่ฮ่อทำเหมือนกับมองไม่เห็นพวกเธอและเอ่ยพูดคุยกับท่านผู้เฒ่าฮ่อเพียงคนเดียวเท่านั้น แม้ว่าคุณปู่ฮ่อจะไม่มีอะไรที่จะพูดกับอีกฝ่ายแต่แม่ฮ่อก็ยังทำราวกับว่าเขารับรู้อะไรเลย
ฮ่อหยุนเฉิงให้ความสนใจกับแม่ฮ่อเพราะกลัวว่าเธอกับฮ่อเฉียนจะคิดลงมือทำอะไรบางอย่างเพื่อทำร้ายท่านผู้เฒ่าฮ่อ
พวกเขาทั้งหมดนั่งรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันในบ้านหลังเก่า ฮ่อเฉียนไม่ได้พูดอะไรเลยในระหว่างมื้ออาหาร แม้ว่าเธอจะเงยหน้าขึ้นมา แต่สายตาเธอก็มองจิกไปที่ซูฉิงเป็นหลัก แต่ฮ่อหยุนเฉิงและท่านผู้เฒ่าฮ่อต่างพากันตักอาหารใส่ในจานของซูฉิง การกระทำของคุณปู่และหลานชายที่กระทำกับทั้งสองคนบนโต๊ะที่เหลือราวกับอีกฝ่ายนั้นไม่ใช่คนในครอบครัวตระกูลฮ่อเลย
ริมสระน้ำ
ซูฉิงยืนอยู่ข้างสระว่ายน้ำ สายลมพัดผมของเธอ เธอต้องการจะออกมาสูดอากาศข้างนอกบ้างเผื่อว่าเธอจะได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้เธอกลับไปออกแบบเสื้อผ้าต่อได้ ฮ่อเฉียนผลักเปิดประตูระเบียงและเห็นซูฉิงยืนอยู่ริมสระน้ำ ใบหน้าหวานมีรอยยิ้มปรากฎขึ้นมาที่มุมปากทันที รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและอิจฉาริษยา
“ปล่อยให้ตกน้ำตายไปได้ซะก็ดี”
ฮ่อเฉียนเดินไปยืนข้างๆซูฉิงราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและพูดกับเธอว่า “ว้าว แชมป์การแข่งขันออกแบบมาแอบยืนชมวิวทิวทัศน์อยู่ที่นี่เพียงลำพัง”
“ใช่” ซูฉิงเพียงแค่เหลือบมองเธอเบา ๆ ไขว้มือและเหยียดแขนทั้งสองข้างของเธอออก “ดูทิวทัศน์สวยๆเผื่อว่าจะได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ ว่าแต่คุณล่ะมาตรงนี้ทำไม หรือคุณนึกอยากจะว่ายน้ำ?”
ฮ่อเฉียนหัวเราะออกมาเบาๆ “ฉันไม่ได้สบายเหมือนเธอหรอกนะ แต่ฉันอยาก… ช่วยให้เธอได้ว่ายน้ำต่างหาก!”
เมื่อฮ่อเฉียนพูดประโยคนั้นออกมา เธอก็ขยับไปด้านข้างของซูฉิงและใช้มือของเธอเอื้อมไปด้านหลังของซูฉิงและพยายามจะออกแรงผลักหญิงสาวตรงหน้า ดวงตาของฮ่อเหยียนเผยแววยินดีอย่างยิ่งเมื่อคิดจะทำตามแผน
ซูฉิง ไปตายซะ!
ใครจะรู้ว่าเมื่อเธอกำลังจะยื่นมือออกไป จู่ ๆ ซูฉิงก็ก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็ว
ซูฉิงสังเกตเห็นการกระทำลับๆล่อๆของฮ่อเฉียนแล้ว ดังนั้นเธอจึงแอบคิดระวังตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่พอตัว ซูฉิงแอบคิดว่าด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างรุนแรงของผู้หญิงคนนี้ จู่ๆ เธอจะมายืนและพูดคุยอยู่ข้างเธอแบบนี้คงมีจุดประสงค์ที่ไม่ดีเป็นแน่
ฮ่อเฉียนตกใจ แต่เธอก็ไม่สามารถตั้งหลักอะไรได้แล้ว ดังนั้นเธอจึงเป็นฝ่ายที่ตกลงไปในสระว่ายน้ำแทน
“ว้าว-”
ในสระว่ายน้ำนั้นปลิงจำนวนเยอะมาก อย่างไรก็ตามฮ่อเฉียนทำได้เพียงแค่หลับตาและพยายามกระเสือกกระสนให้พ้นผิวน้ำเท่านั้น
เธอว่ายน้ำไม่เป็น และน้ำก็ลึกพอที่จะทำให้คนจมน้ำได้
“ช่วย…ช่วย ด้วย…”
ทุกครั้งที่ฮ่อเฉียนโผล่หัวขึ้นมาเธอก็พยายามร้องขอความช่วยเหลือจากซูฉิง เธอสำลักน้ำหลายต่อหลายครั้งแต่ยังไม่ละความพยายาม
ซูฉิงยืนอยู่บนฝั่งอย่างเฉยเมย เธอนับเวลาอยู่ในใจ เมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดของฮ่อเฉียนเธอก็รู้สึกว่ามันคงจะได้เวลาและสาสมกับสิ่งที่อีกฝ่ายคิดจะทำกับเธอ ดังนั้นเธอจึงกระโดดลงไปช่วยและดึงฮ่อเฉียนไปที่ขอบสระ เอื้อมมือออกไปและลากเธอขึ้นมาบนฝั่ง
ใบหน้าของฮ่อเฉียนซีดลงมาก ถึงแม้ว่าเครื่องสำอางจะกันน้ำได้แต่ใบหน้าของเธอในตอนนี้ดูน่าสังเวชเป็นอย่างมาก เส้นผมและร่างกายของเธอเปียกโชก ฮ่อเฉียนไอออกมาหลายครั้งเมื่อถูกดึงขึ้นมาบนฝั่ง ลำคอและหน้าอกของเธอเกิดความอึดอัดและหายใจค่อยข้างลำบาก
“บ้าพอหรือยัง?” ซูฉิงกอดอกมองลงมาที่เธอและเอ่ยถามขึ้นอย่างเฉยเมย
ฮ่อเฉียนเงยหน้าขึ้นมามองเธอทันที ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ “ซูฉิง เธอมันน่ารังเกียจมาก!”
“น่ารังเกียจ?” ซูฉิงหัวเราะและมองมายังเธอด้วยสายตาดูแคลน “ถ้าคุณบอกว่าฉันน่ารังเกียจ คนที่น่ารังเกียจและน่าขยะแขยงกว่าฉันร้อยเท่าพันเท่าคงเป็นตัวคุณเอง พวกคุณร่วมมือกันตั้งใจทำร้ายคุณปู่ฮ่อ และเมื่อกี้คุณก็ต้องการผลักฉันลงสระว่ายน้ำ คนที่มันน่ารังเกียจมันคือเธอไม่ใช่เหรอฮ่อเฉียน? ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะกลอุบายเล็กๆของเธออย่าคิดว่าไม่มีใครรู้ใครเห็น ครั้งนี้ฉันแค่อยากเตือนเธอว่าอย่ามายุ่งกับฉันอีก ถ้ามันยังมีครั้งหน้าอีกล่ะก็อย่าหวังว่าฉันจะปล่อยเธอไปง่ายๆเหมือนครั้งนี้”
หลังจากที่ซูฉิงพูดเช่นนี้เธอก็หันหลังกลับและเดินจากไปทันที เธอต้องรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่เช่นนั้นเธออาจจะต้องเป็นไข้หวัด แต่เธอคงไม่ใช่คนดีขนาดที่จะบอกให้ฮ่อเฉียนสวมเสื้อผ้าให้หนาขึ้นเพื่อป้องกันการป่วยจากไข้หวัด
เมื่อเห็นซูฉิงออกไปฮ่อเฉียนก็กัดฟันมองตามอีกฝ่ายด้วยความเกลียดชัง
ไม่ช้าก็เร็วเธอจะทำให้ซูฉิงต้องชดใช้ทุกอย่างให้ได้!
ซูฉิงกลับไปที่ห้องรับแขกของบ้านหลังเก่าและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาด เมื่อเธอเปลี่ยนชุดเสร็จและเดินออกมาจากห้องเธอก็พบกับฮ่อหยุนเฉิงที่กำลังเดินตรงมาหาเธอ ฮ่อหยุนเฉิงเห็นว่าปลายผมของซูฉิงยังเปียกอยู่เล็กน้อย เขาก็เกิดความแปลกใจขึ้นทันที
“เธอเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ไม่เป็นไร เมื่อสักครู่ฮ่อเฉียนต้องการผลักฉันลงสระว่ายน้ำ แต่ฉันหลบทันทำให้เธอเป็นฝ่ายตกลงไปเอง” ซูฉิงกล่าวเบา ๆ แต่ฮ่อหยุนเฉิงยักคิ้วขึ้นและมองมายังซูฉิงพร้อมส่งเสียงหัวเราะขึ้นในทันใด
“เกิดอะไรขึ้น?” ซูฉิงมองมาที่เขาด้วยความรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “นายหัวเราะทำไม?”
“เปล่า ไม่มีอะไร” ฮ่อหยุนเฉิงโบกมือ “ฉันแค่ไม่ถึงว่าเธอจะมีด้านแบบนี้ด้วย”
ซูฉิงอธิบายไม่ถูก และเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เธอขอกลับไปที่ห้องเพื่อนั่งเล่นสักพักและเธอก็ได้หยิบหนังสือที่ลึกลับเล่มนึงขึ้นมาทาบไว้บนหน้าอก หญิงสาวสะดุ้งตัวและจับมือฮ่อหยุนเฉิงดึงรั้งร่างสูงให้วิ่งตามเธอไปในสวนดอกไม้
ฮ่อหยุนเฉิงเดินตามซูฉิงไปที่สวนดอกไม้ ทั้งสองยืนอยู่บนพื้นหญ้า เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงพาฉันมาที่นี่อย่างกะทันหัน?”
“ดูสิ” จากนั้นซูฉิงก็เปิดหนังสือในมือและให้เขาดู ภาพวาดที่ปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มนั้นเป็นแบบวาดชุดแต่งงาน กระโปรงผ้าหวิวปลิวไสวที่ถูกออกแบบโดยใส่โทนสีไล่ระดับ ซึ่งซูฉิงเองก็ไม่รู้ว่าสีที่ใช้ในภาพนั้นคือสีอะไรบ้าง เธอรอให้แสงแดดหักเหลงมาบนภาพวาดและมองดูชุดที่ถูกไล่ระดับสีขึ้นจนถึงจุดที่สีสว่างที่สุด
เมื่อมองไปที่ภาพวาดการออกแบบนี้ ฮ่อหยุนเฉิงเองก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่ามันน่าอัศจรรย์ จู่ๆซูฉิงก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างออกและหญิงสาวก็ได้แสดงรอยยิ้มลึกลับออกมาทันที เธอรีบวิ่งกลับไปที่ห้องและใช้เวลาค่อนข้างนานมากกว่าจะกลับมายังสวนที่มีฮ่อหยุนเฉิงยืนรออยู่
เมื่อฮ่อหยุนเฉิงได้ยินเสียงแล้วหันกลับมา เขาก็พบว่าหญิงสาวได้หายเข้าไปในห้องเพื่อสวมชุดแต่งงานที่ถูกถอดแบบมาจากภาพวาดเมื่อสักครู่ เขาอยู่ในอาการตกตะลึงเมื่อเห็นซูฉิงเดินเข้ามาใกล้และเธอได้เอ่ยถามเขาว่าชุดแต่งงานนี้สวยหรือไม่ ราวกับชายหนุ่มตกอยู่ในห้วงภวังค์แห่งความฝันเขาพยักหน้าตอบรับหญิงสาวอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้ตัว
” ดูดี คุณดูดีทุกชุดที่คุณสวมใส่”
เมื่อซูฉิงได้ยินคำพูดนั้น เธอก็ก้มศีรษะลงและยิ้มอย่างเขินอาย จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและกล่าวว่า “เดิมทีฉันออกแบบชุดแต่งงานนี้เพื่อใช้ในพิธีหมั้น ตอนนี้ฉันลองใส่ให้นายดูก่อน พอถึงวันนั้นฉันจะออกแบบมันขึ้นอีกตัวนายว่าเป็นยังไง?”
สายตาที่ตื่นตาตื่นใจของฮ่อหยุนเฉิงยังไม่ลดน้อยลง เขาเอื้อมแขนไปโอบเอวของซูฉิงและทำให้ระยะห่างระหว่างคนทั้งสองแคบลงทันที เขามองเข้าไปในดวงตาของซูฉิงและพูดอย่างเสน่หา “ไม่ใช่เพราะชุดๆนี้ แต่คุณดูดีในทุกๆชุดที่คุณใส่ ถึงแม้ว่าฉันจะเคยเห็นเธอใส่ชุดแต่งงานชุดนี้แล้ว ฉันก็ยังคงรู้สึกว่าเธอสวมงามทุกครั้งที่เธอสวมใส่มัน”
ความนิ่งขรึมและเย็นชาของฮ่อหยุนเฉิงถูกมลายหายไปทันทีเมื่อเมื่อเขาได้พูดคุยและใช้เวลาอยู่กับซูฉิง เขารู้สึกสบายใจและดีใจที่มีหญิงสาวอยู่เคียงข้าง ทั้งสองคนพากันเต้นรำบนพื้นหญ้าและเติบเต็มบรรยากาศตรงหน้าให้อบอุ่นมากขึ้นอีกเท่าตัว
หลังจากสวีหว่านเอ๋อร์กลับมาที่ประเทศจีน สวีมู่หยางมีความสุขมากที่เห็นว่ารอยแผลเป็นบนมือของเธอหายไป แต่ใครจะรู้ว่าสวีหว่านเอ๋อร์ได้เห็นวิดีโอของฮ่อหยุนเฉิงที่ขอซูฉิงแต่งงาน