ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 1614
หลังจากที่โยนา ลินช์ ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และเธอก็พูดต่อว่า “แต่ถ้าเขามาจากประเทศหมู่เกาะ…”
เบนจามิน ลินช์หรี่ตาและพูดอย่างเฉยเมยว่า “นั่นไม่น่าเป็นไปได้หรอก แต่ถ้าได้รับการยืนยันว่าเขามาจากประเทศหมู่เกาะจริง หลังจากเราช่วยเขาสามครั้งและตอบแทนบุญคุณของเขาได้แล้ว ก็ฆ่าเขาทิ้งซะ”
โยนาขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “เข้าใจแล้วค่ะ!”
เบนจามินมองดูสีหน้าของโยนา ก่อนจะหัวเราะและพูดว่า “ทำไม? เธอชอบเขาเหรอ? คิดว่าเขาไม่ใช่คนเลวอย่างนั้นใช่ไหม?
“ฉันก็ยังคิดว่าเขาไม่ใช่คนเลว แค่ว่าตระกูลลินช์เป็นหนึ่งในสิบอันดับแรกของประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งกว่านั้น ฉันก็เป็นผู้บังคับบัญชาลำดับต้น ๆ จึงต้องระมัดระวังหลายอย่าง ระวังตัวไว้ก่อนก็จะดีกว่า”
“หากเราพบว่าเราเข้าใจเขาผิดจริง ๆ เราอาจมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาทีหลังก็ได้ คิดว่าน้องยอร์กคงเข้าใจเรา”
ใบหน้าของโยนาขึ้สีเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ก้มหัวลงและพูดว่า “นายท่าน ไม่ต้องกังวล ดิฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง”
เบนจามินพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดด้วยท่าทีสบาย ๆ “อ้อ ใช่ มีอีกเรื่องที่สำคัญ เธอต้องหาให้ได้ว่าใครคือคนที่พยายามจะลอบสังหารฉันก่อนหน้านี้”
“นอกเหนือจากนั้น ฉันต้องเดินทางไปโวลซิ่ง”
“พอรู้ว่าฉันกำลังจะตาย หลายคนก็จับตามองตำแหน่งของฉัน ตอนนี้ฉันแข็งแรงดีและยังมีชีวิตอยู่ ฉันอยากเห็นว่าคนเหล่านี้จะแสดงสีหน้าอย่างไร”
***
ในตอนสองพ่อลูกตระกูลลินช์คุยกัน ฮาร์วีย์ ยอร์กก็เตรียมลงจากรถไฟความเร็วสูงแล้ว
เขาสามารถคาดเดาเนื้อหาของการสนทนาระหว่างพวกเขาสองคนได้ง่าย ๆ หลังจากที่เขาจากไป
แต่เขาก็ไม่ได้แสดงตัวว่ารู้
เขาเพิ่งจะมาที่นี่ นอกจากนี้เขายังสามารถชี้ให้เห็นถึงอาการบาดเจ็บและปัญหาที่มีอยู่ของเบนจามิน เขายังช่วยพวกเขาแก้ปัญหาอีกต่างหาก
ทุกอย่างดูบังเอิญเกินไป
หากเบนจามินไม่โง่จนเกินไป เขาจะต้องสงสัยในตัวตนของเขาอย่างแน่นอน
ทว่าฮาร์วีย์ไม่สนใจเรื่องนี้ เขารู้ว่าเบนจามินเป็นคนสำคัญตั้งแต่แวบแรกที่เห็น เขาจึงรู้ถึงตัวตนของเบนจามินได้ในไม่ช้า
ท้ายที่สุด คนที่โจมตีเขาส่วนใหญ่มาจากประเทศหมู่เกาะ ตราบใดที่เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเทศหมู่เกาะ พวกเขาก็สามารถทำความรู้จักกันได้
สำหรับสิ่งที่เบนจามินจะทำให้เขาได้นั้น เขายังไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขารู้สึกว่าคงพอเบนจามินสามารถช่วยเขาได้บ้างเมื่อเขาเริ่มลงมือทำอะไรในมอร์ดู
รถไฟความเร็วสูงจอดที่มอร์ดู ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่
ฮาร์วีย์เดินออกจากทางออกที่หันไปทางทิศใต้ตามข้อความที่เคลลี่ มาโลนส่งมา
รถบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 สีดำจอดขวางทางออก มีหนุ่มหน้าตาเจ้าเล่ห์สูบบุหรี่ยืนพิงประตูรถอยู่
ฮาร์วีย์เหลือบมองป้ายทะเบียนรถ จากนั้นเขาก็เดินไปและพูดว่า “คุณคือพี่มาโลนใช่ไหม? ผมเป็นหลานลุงมาโลน…”
พี่มาโลนเงยหน้าขึ้นและชำเลืองมองฮาร์วีย์ แววตาของเขาดูเย้ยหยันเล็กน้อยเมื่อเห็นฮาร์วีย์สวมเสื้อผ้าไร้ยี่ห้อ เขาพูดอย่างเย็นชา “นายคือฮาร์วีย์เหรอ?”
ชื่อของเขาคือเจเรมี่ มาโลนหลานชายห่าง ๆ ของเคลลี่ มาโลนซึ่งทำงานเป็นคนขับรถให้เคลลี่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
แต่คนที่คลุกคลีอยู่กับคนร่ำรวยมาเป็นเวลานานอย่างเขาย่อมคิดว่าตนเป็นในระดับเดียวกัน
ดังนั้นพวกเขาจึงทำตัวเย่อหยิ่งอยู่เสมอ
เนื่องจากเคลลี่ขอให้เขามารับใครซักคนเป็นการส่วนตัว ตอนแรกเขาก็คิดว่าตัวเองจะได้ต้อนรับทายาทเศรษฐีรุ่นที่สองหรือนักธุรกิจผู้มั่งคั่ง ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนยากจนเช่นนี้
ดูจากการแต่งตัวของเจ้าเด็กนี่และนาฬิกาเรือนเก่าบนข้อมือ ผู้ชายคนนี้ต้องมาที่นี่เพื่อมาขอเคลลี่อาศัยแน่ ๆ หมอนี่อาจจะมาขโมยงานของเขาด้วยซ้ำ ดังนั้น เจเรมี่จึงมองฮาร์วีย์ด้วยความเป็นศัตรูเล็กน้อยในขณะนี้