ซูเสี่ยวฉินไปแล้ว ทิ้งเงินไว้ให้ผมจำนวนหนึ่ง เธอไม่ได้นับ ผมเองก็ไม่ได้มอง แต่ว่าดูแล้วน่าจะมีประมาณสี่ห้าพัน
ผมบอกว่าผมจะไปส่งเธอ แต่เธอไม่ต้องการ ยืนยันว่าจะขับรถเอง
จากนั้นพาเธอขึ้นรถขับรถออกไป ผมก้มศีรษะลงเพื่อทำการจุดบุหรี่หนึ่งมวน ด้านหน้าก็ได้ยินเสียง ‘เปรี้ยง’ดังกลับมา เงยหน้าขึ้นไปมอง รถของเธอนั้นชนกับกำแพงแล้ว
เดินไปที่ด้านหน้า เธอยังคงเหยียบคันเร่งอย่างชะตาขาดอยู่เลย ปากยังคงพึมพำ “ฉันไม่ได้เหยียบเบรกนี่ ทำไมรถถึงไม่ขยับ……”
“ข้างหน้าเป็นแนวกำแพง ผู้หญิงคุณอยากจะผลักกำแพงนี้ไป แบบนั้นคุณคงเป็นวัวสาวขี่มอเตอร์ไซค์ เจ๋งสุดๆแล้ว”
เปิดประตูรถ ผมพาซูเสี่ยวฉินออกมาข้างนอก เธอไม่ยอม ถามผมอย่างดุร้ายว่า เป็นผมใช่ไหมที่ผลักรถของเธอชนกำแพง
เห็นผมเป็นกังฟูแพนด้าหรือยังไงกัน จะสามารถผลักรถไปชนกำแพงได้!
“พี่ฉินผมจะไปส่งคุณเอง ส่วนรถพวกคุณหาทางเอาละกัน!”
พวกเขาพูดกับผู้จัดการที่รีบออกมาจากร้าน จากนั้นผมจึงอุ้มบังคับซูเสี่ยวฉินขึ้นไปบนรถ
“ผู้หญิง บ้านคุณอยู่ที่ไหน!”
หลังจากสตาร์ทรถ ผมพาเธอไปยังถนนสายหลัก จากนั้น คุณผู้หญิงคนนี้ก็ร้องออกมาในสิ่งที่เหนือความคาดหมายของผม
“บ้านของฉันอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ที่แม่น้ำซงฮวา ที่นั่นกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ถั่ว เมล็ดข้าวฟ่างอาาา……”
“คุณคิดว่าคุณนั่งเครื่องบินหรือไง ยังจะมาหยุดที่ตะวันออกเฉียงเหนือ คุณพูดเหมือนว่าอยู่รัสเซีย ผมถึงจะบินผ่าน!”
ถามไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ อยู่ที่ท่าเรือสักอย่าง อยู่ที่อ่าวสักอย่าง ครั้งหนึ่งบอกว่าไปต่างประเทศ แต่ที่อยู่แต่ละที่นั้นไม่มีที่ไหนตรงเลย
ไม่มีทางเลือก ผมทำได้แค่หาโรงแรมใกล้ๆแถวนั้น ส่งเธอไป
เปิดห้องและประคองเธอขึ้นไป หลังจากที่เธอไปถึงห้องแล้ว ไม่มีสติสัมปชัญญะมานานแล้ว
วางซูเสี่ยวฉินลงบนเตียง ช่วยเธอถอดรองเท้า จากนั้นพลิกร่างกายของเธอให้นอนอยู่ตรงกลางเตียง ถือว่ายังมีสติดีอยู่ ผมที่สงวนท่าทีกอดไปแล้ว
พริบตาเดียว น่าจะเหมือนว่าร้อน กระโปรงถูกเปิดออกแล้ว ด้านในมีอะไรบางอย่าง แสงไฟของโคมไฟโรงแรมที่ส่องสว่างนั้น ผมเห็นได้อย่างชัดเจนจริงๆ
“คุณมานี่ คุณมานี่……”
ซูเสี่ยวฉินลืมตาขึ้นมาขึ้นมา ใบหน้าเมามายและยั่วยวน จนกระทั่งมีคำเรียกร้องที่ร้อนอกร้อนใจทนไม่ไหว
“ฉันไม่ใช่ตั่นโก๋ซูนคุณดูดีๆหน่อย”
“ไม่ต้องดูหรอก ฉันรู้ดี คุณคือผู้ชายขายบริการน่ารังเกียจคนนั้น จงใจกลั่นแกล้งผู้ชายขายบริการของฉัน เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าคุณพูดว่าฉันสวย บอกว่าฉันน่าหลงใหลไม่ใช่หรือไง? มาสิ ฉันให้คุณ คืนนี้คุณต้องทำแบบรุนแรง……”
พูดก็ยังพูดไม่ทันจบ เธอก็รีบเอาหัวลงจากเตียง และทนไม่ไหวอีกต่อไป อ้วกออกมาไม่หยุด ถึงจะไม่มีอาหาร เต็มไปเหล้าและน้ำเปรี้ยว
ผมช่วยตบหลังของเธอ จากนั้นก็ไปเทน้ำต้มสุกอุ่นๆมาให้
เพียงแต่ตอนที่ผมถือน้ำมาอยู่ตรงหน้าใกล้ๆเธอนั้น เธอก็ได้นอนลงบนเตียงหลับไปเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเวลาเท่าไหร่แล้ว ขนาดที่เสื้อที่ปกปิดหน้าอกทั้งหมดถูกดึงออก เผยให้เห็นพัสดุสีขาวหิมะที่อยู่ด้านในชุดชั้นใน
มีเสน่ห์อย่างมาก น่าหลงใหลเป็นอย่างมาก
ผมอยากจะทำอะไรบางอย่าง ดังนั้นผมเลยตรงไปจัดการทำซะเลย
แยกขาสวยเรียวยาวของเธอคู่นั้นออก ผมยื่นมือออกไป ถูอย่างเบามือ เรียบลื่นเหมือนกับที่ผมจินตนาการเอาไว้ก่อนหน้านี้เลย ในนั้นไม่มีขนตามธรรมชาติเลย เหมือนกับเสือขาว(ที่จีนอุปมาผู้หยิงที่ไม่มีขนหัวหน่าวเรียกว่าเสือขาว) แต่ว่ามือนั้นสัมผัสได้ถึงความอุ่นชื้นและเรียบลื่นนั้น ช่างน่าหลงใหลและเคลิบเคลิ้มเป็นอย่างมาก ทำเอาผมทนไม่ไหวที่จะทำเรื่องอะไรต่อมิอะไรชั่วพริบตา ผมคว่ำหัวลง จูบเธอเบาๆ และใช้ลิ้นเข้าไปสำรวจ ค่อยๆยั่วยวน ค่อยๆเล้าโลม
ผ่านไปหนึ่งนาที ผมก็วางมือ ช่วยเธอดึงกระโปรงลง และช่วยห่มผ้าให้กับเธอ
ผมให้ความสนใจกับร่างกายนี้เป็นอย่างมาก แต่ว่าผมไม่สนใจคนที่เหมือนตายไปแล้ว เธอในตอนนี้นั้นเหมือนกับเนื้อไขมันก้อนโตที่ปรุงสุกแล้วถูกแทงเข้าไป ร้องไม่ได้ ขยับไม่ได้ พูดตามตรงไม่มีทักษะความเชี่ยวชาญในการใช้มือของผมเลย ผมจะแตะต้องเธอไปทำไม?
วางบัตรเข้าห้องไว้ จากนั้นก็หยิบเงินทั้งหมดที่เธอให้ผมจากในกระเป๋าออกมาวางไว้ที่ข้างๆหัวเธอเรียบร้อยแล้ว ผมก็เปิดประตูเดินออกมา
นั่งอยู่บนรถ จุดบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวน ทันใดนั้นผมก็นึกถึงประโยคที่จางหงหวู่เคยพูดไว้กับผม
เธอพูด “คุณเป็นคนดี คุณช่างน่าหลงใหล บางทีใจอ่อนไป”
ผมจำเป็นต้องยอมรับ จางหงหวู่พูดถูก ถ้าไม่ใช่ใจอ่อนเกินไป ถ้าไม่ใช่ว่ากังวลที่ ซูเสี่ยวฉินเคยถูกข่มขืนแล้วเหลือร่องรอยดำมืดในจิตใจไว้ ผมคงไม่มีทางเชี่ยวชาญคล่องแคล่วเอาเรื่องพวกนี้มาหลอกตัวเองได้
“ก็จริงแหละ……”
สาปแช่งด้วยเสียงต่ำออกไป จากนั้นผมก็ขับรถแล่นจากไป
กลับไปที่ตึกของJasonจางซานตั้น ผมจอดรถ คิดไปคิดมา ผมก็ขับรถออกมาแล้ว
เวลานี้ถ้าJasonอยู่บ้านกำลังทำภารกิจกับเฉินหลินละก็ ผมคงรับไม่ไหวแล้ว ผมอดทนอย่างยากลำบากกับซูเสี่ยวฉินคนนั้นมาแล้ว ดังนั้นผมเลยเอากุญแจห้องที่กู้ฟางเฟยทิ้งไว้ให้ออกมา รีบตรงไปที่ห้องที่เธอเช่าเอาไว้
หลังที่รถจอดสนิทดีแล้ว ผมก็ขึ้นตึกไปเปิดประตูห้อง
ตอนที่เดินก้าวเข้ามาข้างใน ผมเตะเข้ากับรองเท้าคู่หนึ่งเข้า
เปิดไฟ นี่เป็นรองเท้าส้นสูงสีดำหนึ่งคู่ และรองเท้าแตะของผู้หญิงที่เคยอยู่ตรงรองเท้าส้นสูงนั้น ไม่เจอแล้ว
ดังนั้น ผมเดินตรงเข้าไปในห้องนอน จากนั้นไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอกู้ฟางเฟยนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง
หนังสือเรื่อง《วีรชนบนเส้นทางปฏิวัติ》 ผู้แต่งคือนิโคไล ออสต๊อฟสกี้ นักแสดงนำคือPavel Korchagin
กู้ฟางเฟยถามผม “หนังสือเล่มนี้ คุณเคยอ่านหรือเปล่า?”
หนังสือเล่มนี้ ผมเคยอ่านตอนอยู่ชั้นประถมห้า
“สิ่งที่มีค่าที่สุดของคนคือชีวิต คนเรามีชีวิตได้เพียงครั้งเดียว ชีวิตของคนเราควรจะใช้แบบนี้ เวลาที่เขาหันกลับไปมอง เขาจะไม่เป็นคนที่ปล่อยเวลาผ่านไปอย่างไร้ค่าและมาเสียใจภายหลัง และจะไม่เป็นเพราะว่าอยู่เฉยๆจนขายขี้หน้า แบบนี้ พอตายไปเขาจะได้พูดได้ว่า……”
“ฉันทุ่มเททั้งชีวิตและกำลังทั้งหมดที่มี ทั้งหมดนั้นให้กับแผนการที่ยอดเยี่ยมที่สุดบนโลกใบนี้ไปแล้ว——ต่อสู้เพื่อปลดปล่อยมนุษยชาติ!”
กู้ฟางเฟยตอบได้ถูกต้อง พูดจากความทรงจำของผม คำตอบของเธอนั้นน่าจะไม่ผิดสักตัวเดียว
เพียงแต่ว่าผมไม่เข้าใจก็คือ เธอที่เป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้แล้ว นิยายแนวรักโรแมนติกผมรับได้ หนังสือพวกเกี่ยวกับธุรกิจการเงินนั้นผมก็ยังรับได้ แม้กระทั่งไม่กลัวหนังสือแบบเรื่อง《จินผิงเหมย》ส่วนใหญ่ผมก็ยังบังคับให้รับได้อยู่ แต่เธอกับหนังสือ《วีรชนบนเส้นทางปฏิวัติ》 อันนี้ผมรับได้ยากจริงๆ คิดไม่ตก
“หรือว่าคุณต้องการความมุ่งมั่นของเหล็กกล้าธรรมดา ให้ต่อสู้และบึกบึนเหมือนกับPavel Korchagin?”
“หรือว่าฉันไม่น่าที่จะจำเป็นหรือไง?”
ผมรู้ เธอจำเป็นจริงๆ แต่ว่าผมไม่สามารถพูดออกมาได้ ดังนั้นผมทำได้แค่เพียงพูดว่าไม่รู้
เธอยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับหัวข้อสนทนานี้อีก จากนั้นตีลงบนเตียง
จากนั้นผมถอดเสื้อผ้าออก ทั้งหมดนั้นอยู่ต่อหน้าเธอ ไม่มีการเขินอายหรือเกรงใจแม้แต่น้อย
หลังจากที่ถอดทั้งหมดออกไปหมด หลังจากที่เธอเปิดผ้าห่มออก ผมก็หมุนตัวเดินไปที่โรงอาบน้ำ
จากนั้น ภายในห้องนอนก็กู้ฟางเฟยที่มาถึงนั้นหัวเราะเสียงดังมาก ไม่มีความเป็นกุลสตรีเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าจะไม่เห็นตัวของเธอ แต่ยังคงสามารถจินตนาการได้ว่าตอนนี้เธอนั้นไม่เหมือนเทพธิดาแน่นอน เหมือนเทพธิดาป่วยมากกว่า
หลังจากล้างตัวเรียบร้อย ผมก็กลับไปบนเตียง จากนั้นเข้าไปในผ้าห่มของกู้ฟางเฟย ตรงเข้าไปกอดร่างกายที่อ่อนนุ่มเรียบลื่นของเธอนั้นไว้แน่นๆในอ้อมแขน
“ฉันไม่ใช่ไม่ให้คุณไปทำงานแล้วเหรอ?”
ผมไม่ได้ตอบอะไร แต่กู้ฟางเฟยมองผมตั้งแต่ต้นจนจบ ดังนั้นผมก็เลยต้องตอบ
“ยังไงก็ทำงานขายบริการไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอก ผู้หญิงที่มีอำนาจจากการประจบสอพลอหรือผู้มีอำนาจโดยตรง ก็จะพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะควบคุมอำนาจที่อยู่ในมือของพวกเธอ จากนั้นก็จะเหมือนหอยทากที่ค่อยๆปีนขึ้นไป สรุปก็จะทำเรื่องนี้ต่อไปในอนาคตเรื่อยๆ”
“ในเมื่อเข้ามาในเส้นทางนี้แล้ว งั้นก็ทำไปละกัน ยังไงซะก็ไม่สามารถหาผู้หญิงรวยๆมาได้หรือหลังจากแต่งงานกับผู้หญิงรวยบางคนได้ก็คงออกจากวงการด้วยตัวเองเอง ไม่แน่คนอื่นอาจจะชอบแบบนี้ แต่ว่าอย่างน้องฉันก็ไม่ชอบ”คำพูดของผม ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องจริง แต่ว่าจริงๆแล้วมีจุดประสงค์และมีเป้าหมายอยู่ และจุดประสงค์และเป้าหมาย แน่นอนว่าคือกู้ฟางเฟยที่อยู่ในอ้อมกอด
เนิ่นนาน เธอก็ค่อยๆตอบรับ “ใช่ ฉันปีนั้นไม่ใช่เป็น……”
เธอปิดปากเงียบ