บทที่ 78 ตื่นขึ้นมาไม่เจอฉันแล้วไม่มีความสุขเหรอ
วิษณุส์ก็ใจดำอำมหิตเหลือเกิน เขายอมทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เขาต้องการ
แถมตอนนี้ยังมีคุณพศ ที่โหดเหี้ยมกว่าวิษณุส์เป็นหมื่นเท่า ตระกูลวรชัยลภัสนั้น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก็เป็นคนที่ไม่ควรจะไปยั่วยุอะไรใดๆทั้งสิ้น
เขมินท์ที่ไม่เคยโดนบุรินทร์ตะคอกใส่มาก่อน
พอเห็นท่าทางแบบนี้ของเขาก็รู้สึกอึ้งไปพักนึง พอตั้งสติได้ก็แหกปากด่าเขากลับไป “ไอ้บุรินทร์ ไอ้สารเลว! ตอนนี้พิมมี่เป็นแบบนี้แล้วยังจะมาโทษฉันอีกงั้นเหรอ? คุณไม่ผิดเลยรึไง? ตอนนี้พิมมี่จะเป็นจะตายก็ยังไม่รู้ คุณยังจะมาพูดถึงเรื่องหย่าอีกงั้นเหรอ”
“ที่คุณทำแบบนี้ ก็เพราะลูกเมียน้อยของคุณใช่ไหม เพื่อที่จะให้เธอได้อยู่ในตำแหน่งภรรยาท่านประธานของบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ใช่ไหม? ผ่านมาหลายปี คุณก็ยังจะปกป้องยัยลูกเมียน้อยนั่นอีกงั้นเหรอ?”
ตอนแรกบุรินทร์ไม่เคยถามความเห็นเธอ ก็พายัยนาราผู้หญิงชั้นต่ำนั่นเข้ามาอยู่ที่ย้าน
ถึงแม้ว่าหลายปีมานี้ เธอคิดวิธีทำให้ยัยนารานั่นทุกข์ทรมานมามากมาย แต่ก็ทำได้แค่เพียงให้เธอโกรธเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แต่ว่าทุกครั้งที่เธอเห็นบุรินทร์พยายามปกป้องผู้หญิงชั้นน้ำอย่างยัยนารานั่นอย่างสุดกำลัง เธอก็ต้องโมโหจนกัดฟันกรอด
แถมตอนนี้บุรินทร์ยังคิดว่าจะให้ยัยนั่นได้อยู่ในตำแหน่งภรรยาของท่านประธานบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ ให้คุณพศหย่ากับพิมมี่ แบบนั้นเขมินท์จะยอมได้ยังไงกัน?
ตำแหน่งภรรยาของท่านประธานบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ ต้องเป็นของพิมมี่เท่านั้น ยัยลูกเมียน้อยอย่างนารา ไม่เหมาะสมเลยแม้แต่ปลายเล็บ!
“เธอนี่มัน…..มัน….” จนถึงตอนนี้ เขมินท์ยังคงหลงงมงาย บุรินทร์โมโหอย่างมาก
แต่บุรินทร์ยังไม่ทันพูดจบ ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก
พยาบาลที่สีหน้าไม่ค่อยพอใจ เดินออกมาพร้อมกับขมวดคิ้วแน่นแล้วตะคอกใส่พวกเขาว่า “ที่นี่คือโรงพยาบาล ถ้าจะทะเลาะกันช่วยออกไปทะเลาะกันข้างนอกด้วยค่ะ! การที่พวกคุณทะเลาะกันมันกระทบต่อการรักษาของคุณหมอ ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมา พวกคุณรับผิดชอบไหวไหม?”
พูดตามตรง พยาบาลคนนี้ไม่เคยเจอมาก่อน คนไข้กำลังได้รับการผ่าตัด แต่ว่าญาติของเขากลับยืนทะเลาะกันเสียงดังอยู่ด้านนอก
ความคิดของพวกคนรวยนี่ช่างแปลกเสียจริง
ในเวลาแบบนี้ ชีวิตของคนไข้ต่างหากที่สำคัญที่สุดไม่ใช่เหรอ?
บุรินทร์กับภรรยาที่โหวกเหวกโวยวายกันอยู่ในตอนแรกนั้น พอโดนพยาบาลออกมาด่าแบบนั้น ก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ
บุรินทร์ที่กำลังพยายามระงับความโมโหไว้หันหน้าไปด้านอื่น ไม่พูดอะไรต่อ
ส่วนเขมินท์ที่เป็นห่วงพิมมี่จนแทบขาดใจ พอเห็นพยาบาลออกมา ก็รีบถามเธอว่า “คุณพยาบาลคะ ลูกสาวฉันเป็นยังไงบ้าง? เธอเป็นอะไรมากไหม? คุณต้องช่วยเธอให้ได้นะ ขอร้องพวกคุณล่ะ เธอจะเป็นอะไรไปไม่ได้นะ!”
พอเห็นท่าทีของเขมินท์แบบนี้ สีหน้าของพยาบาลต้องเดินออกมาเพราะพวกเขาเสียงดังก็ดูไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่
เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณหมอของพวกเรากำลังพยายามห้ามเลือดให้เธออยู่ กรุณารักษาความสงบ อย่าเสียงดังโวยวายอีกนะคะ”
พอพูดจบ พยาบาลคนนั้นก็เดินกลับเข้าไปในห้องผ่าตัด
พอพยาบาลไปแล้ว เขมินท์ก็ไ่มอยากจะให้การที่พวกเขาทะเลาะกันไปกระทบต่อการรักษาของพิมมี่
เพราะฉะนั้นเขมินท์เลยได้แต่มองบุรินทร์ด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดว่า “คุณควรอธิษฐานให้พิมมี่ไม่เป็นอะไร ถ้าเกิดว่าพิมมี่เปนอะไรไปล่ะก็ ฉันจะฝังคุณกับยัยผู้หญิงชั้นต่ำนั่นลงไปพร้อมกันเลย!”
หลายปีมานี้ ยัยผู้หญิงชั้นต่ำอย่างนารานั่นแค่ยึดตำแหน่งทายาทคนที่สองของตระกูลวรชัยลภัสยังไม่พอ
แถมตอนนี้ยังคิดจะแย่งตำแหน่วภรรยาท่านประธานแห่งบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ แถมยังทำร้ายพิมมี่ของเธอ จนตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไงบเาง
ดังนั้นตอนนี้เขมินท์เลยให้สัญญากับตัวเองว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะไม่มีวันยอมให้นาราใช้ชีวิตแบบสงบสุขซักวันเดียว!
นาราที่โดนคุณพศเล่นงานจนหมดแรงหลับไป
น่าจะหลับไปประมาณสองสามชั่วโมง พอเธอตื่นขึ้นมา ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว
เห็นว่าพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าแล้ว เธอก็คิดขึ้นมาได้ว่า วันนี้เธอยังไม่ได้นวดให้คุณพศเลยก็หลับไปซะแล้ว นาราก็รู้สึกทุกข์ใจขึ้นมา
เธอก็เลยรีบใส่เสื้อผ้า เห็นว่าไม่มีใครอยู่ในห้องนอน เธอก็ไปที่ห้องของคุณพศ แต่ก็ไม่มีใครอยู่ในนั้นเช่นกัน
นาราที่รู้สึกหดหู่อย่างมากก็เดินลงมา พอเห็นว่าแม่บ้านยืนอยู่ตรงนั้นก็รีบเอ่ยปากถาม “คุณชายไปไหนแล้วละ? ไปบริษัทแล้วเหรอ?”
ทั้งๆที่ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าวันนี้คุณพศเลิกงานครึ่งวันมาเพราะว่า ตรัญ เด่นภูมิและยชญ์มาเยี่ยม
สุดท้ายเธอก็นอนหลับไป โดยที่ยังไม่ทันจะได้นวดให้เขาเลย
งานที่บริษัทของคุณพศยุ่งขนาดนี้ เธอได้นวดให้เขาน้อยจนนับครั้งได้เลย
ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เมื่อไหร่ขาของคุณพศจะหายดีกันล่ะ? แล้วเมื่อไหร่เธอถึงจะได้ไปจากที่นี่?
พอคิดแบบนี้แล้ว นาราก็ยิ่งรู้สึกหดหู่มากขึ้นไปอีก สีหน้าดูหงอยเหงาเศร้าซึม
ส่วนแม่บ้านที่พอได้ยินคำถามของนาราก็ไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่มองไปทางห้องโถงใหญ่
“ทำไม ตื่นขึ้นมาไม่เจอฉันแล้วไม่มีความสุขงั้นเหรอ?” ไม่คิดเลยว่าพอนาราตื่นขึ้นมา เรื่องแรกที่เธอทำก็คือตามหาเขา
คุณพศที่นั่งเอกสารอยู่ที่ห้องโถง พอได้ยินเสียงของนาราก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันที
เขาเลยรีบหันหน้าไปมอง ก็เห็นนารายืนอยู่ที่บันได ใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา
ในใจก็แอบคิดว่า : ยัยตัวเล็กนี้ เมื่อวานยังโกรธเขาอยู่ ไม่สนใจเขาไม่ใช่เหรอ? แต่พอมาวันนี้พอตื่นขึ้นมาก็รีบตามหาเขาซะแล้ว ดูเหมือนว่าการกระทำแต่ละอย่างที่ผ่านมาของเธอนั้นช่างไม่ตรงกับใจเสียจริง เป็นเด็กไม่ดีเลยนะเนี่ย
แต่ว่าต้องอ่อนโยนและดูแลผู้หญิงให้ดี เธอถึงจะยอมเผยความในใจออกมา
นาราคิดว่า ตัวเองหลับไปนานขนาดนั้น คุณพศก็เลยคงจะกลับบริษัทไปแล้ว
แต่เธอไม่เคยคิดเลยว่า คุณพศที่ปกติจะอ่านเอกสารอยู่ที่ห้องหนังสือ วันนี้กลับมาอยู่ที่ห้องรับแขกซะได้
ดังนั้นเขาก็เห็นท่าทีร้อนรนของเธอตอนตามหาเขาแล้วน่ะสิ ใบหน้าเล็กๆของนาราก็แดงขึ้นมาทันที
เธอรีบส่ายหัวและอธิบาย “ฉันจำได้ว่ายังไม่ได้นวดให้คุณเลย นึกว่าคุณกลับบริษัทไปแล้ว ก็เลยมาตามหา”
ไม่ใช่เพราะว่าตื่นขึ้นมาไม่เจอเขาแล้วก็เลยไม่มีความสุข
คุณพศเป็นแบบนี้ตลอดเลย ไม่ว่าจะพูดอะไรก็จะสามารถเปลี่ยนความหมายที่แท้จริงได้ตลอด
จนทำให้บางทีนาราก็คิดว่า จริงๆในใจของเธอ คิดเหมือนกับที่เขาพูด หรือคิดเหมือนกับที่เธอคิดกันแน่
“หืม? นวดให้ฉันมันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ? ที่แท้ก็ไม่ใช่เพราะว่าตื่นขึ้นมาแล้วไม่ได้อยู่ในอ้อมกอดฉัน ก็เลยหดหู่ใช่ไหม?”