ตอนที่ 438จินดาตกอยู่ในอันตราย
บางทีกาก้าก็จะมาส่งเอกสารด่วนให้คณพศที่บ้านบ้าง ไปไปมามาก็เริ่มสนิทกับนารา แล้วเรียกนาราว่าพี่นารา
นาราก็ชอบน้องที่ตรงไปตรงมาแบบกาก้า รู้สึกว่าเขาและเธอมีความชอบเหมือนกัน แล้วค่อยๆเริ่มมาเป็นเพื่อนซี้กัน
ตามด้วยท้องของนาราก็เริ่มโตขึ้นทุกวัน กาก้าก็เริ่มเตือนคณพศว่าต้องอยู่บ้านเป็นเพื่อนของนารา เรื่องที่บริษัทเธอจัดการได้ ถ้าจัดการไม่เป็นเดี๋ยวเธอจะโทรบอก
คำเสนอนี้ถูกใจคณพศมาก เขาคิดอยากจะติดข้างนาราแทบจะทุกวิทุกวัน
เรื่องเล็กน้อยก็เริ่มให้กาก้าจัดการ ก็ดูออกว่าเธอจัดการได้ทุกเรื่อง แต่เวลาที่พระอาทิตย์ตกดิน
เธอก็จะไปยืนอยู่ที่ที่ผู้ช่วยของประธานแล้วเหม่อลอย สายตาเธอมีแต่ความเศร้าและความคิดถึง
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดถึงใครอยู่
เพราะเธอจัดการเรื่องทุกเรื่องได้ดี เธอก็ห่างกับทุกคนแล้วเก็บความในใจไวคนเดียว
เวลาผ่านไปเร็วมา แป๊ปเดียวเองนาราก็ท้องได้ห้าเดือนแล้ว
เคนโด้รู้ว่านาราท้องอีกแล้ว ก็ยินดีด้วย แต่ในใจก็เสียใจอยู่นิดๆ
ที่จริงเขาเองควรที่จะมาปกป้องผู้หญิงคนนี้แต่กลับยิ่งอยู่ยิ่งห่าง
แต่พริมกลับเหมือนนก จากการดูแลบ้านให้เคนโด้ได้สะอาด แบบนี้ก็สามารถทำให้เคนโด้สบายใจขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง ถึงแม้ว่าเขาไม่สามารถจับมือกับนาราได้แล้ว แต่ยังดีว่าเขายังมีพริมอยู่ข้างๆ
ทุกครั้งที่เคนโด้เห็นพริมยิ้ม เขาก็จะนึกถึงเรื่องของเขากับนาราตอนอยู่มหาลัย ไม่ต้องคิดอะไร สบายชิวๆ
วันนี้ นาราเบื่อการอยู่บ้านแล้วเลยอยากออกไปช็อปปิ้ง
แต่คนที่อยากมัดติดอยู่กับนารา24ค่อยดูแลนาราก็คือคณพศก็ตกลง แล้วไปพานาราช็อปห้างที่ใหญ่ที่สุดของฮาวาย
คนในห้างเดินไปเดินมาก เปิดแอร์เต็มที่
ร่างกายของนาราเริ่มไม่ไหว เดินนานก็อยากพักเรื่อยๆ
คณพศดูแลเธออย่างทะนุถนอม ถามเธอตลอดว่าจะกินอะไรหรือป่าว
หรือว่าไม่ได้ออกมานานเกิน นาราก็ยังไม่รู้สึกว่าอยากกลับ เธอชี้ว่าจะลงไปชั้นสาม ข้างบนเป็นร้านของเด็ก อยากขึ้นไปดู แล้วซื้อของที่ต้องใช้กับเสื้อผ้าเด็กที่ต้องใช้
คณพศกอดเธอไว้อย่างดี ในใจก็คิดว่าเหมือนพาแพนกวินไว้ ตอนขึ้นบันไดเลื่อนก็เลยอดหัวเราะไม่ได้
นารามองคณพศแล้วถามว่า” อยู่ดีๆคุณหัวเราะอะไร?”
คณพศนวดปากที่หัวเราะแล้วไปพูดข้างๆนาราว่า” คุณเหมือนแพนกวินเลยตอนนี้ โยกไปโยกมา ตลกมาก”
นาราก็หัวเราะ แล้วชกไปที่อกของเขา“คุณนั้นแหละเป็นแพนกวิน คุณนั้นแหละที่มั่น!”
“ใช่ใช่ใช่ เป็นฉันเอง ระวังขา”คณพศดูแลนาราขึ้นชั้นสามอย่างดี แล้วก็เริ่มไปเลือกซื้อของเด็ก
เห็นรองเท้ากับเสื้อชมพู่ที่น่ารักๆ นาราดูแล้วชอบมาก คิดว่าชุดไหนน่ารัก เลือกยากมาก
เธอจับเสื้อสีชมพู่ขึ้นมากับอีกชุดเป็นสีขาวถามคณพศว่า“คุณว่าสีไหนสวย?”
คณพศให้คำตอบเร็วมาก“สวยทุกชุด ห่อมาทั้งหมด”
นารากำลังจะพูด ชั้นล่างก็มีเสียงดังวุ่นวายกันดังขึ้น
คณพศมองลงไปดูด้านล่าง เห็นว่าคนที่กำลังเดินอยู่ที่ชั้นหนึ่งเริ่มหนีไปที่ทางออก แล้วก็มีคนพูดว่า “ไฟไหม้แล้วรีบหนี!”
ทีนี้ทำให้คณพศตกใจมาก เขารีบจับมือของนาราไว้ แล้วรีบหาทางออก
นารารู้สึกถึงความตื่นเต้นของคณพศ เลยถามว่า “เกิดไรขึ้น? ทำไมด้านล่างเสียงดังจังเลย?”
“ไม่เป็นไรเราหนีออกจากที่นี่ไปก่อน”คณพศไม่อยากให้นาราตกใจ ก็เลยไม่ได้พูดความจริงออกมา
แต่ถึงเขาไม่พูด ควันที่มาจากชั้นหนึ่งก็รู้ว่าไฟไหม้
เร็วมาก ควันนั้นเต็มไปหมดทั้งห้าง ทุกคนร้องเสียงดังแล้วหาทางออกกันอยู่ แล้วก็เสียงเรียกเพื่อน
ชั้นแรกควันเยอะสุด ผ่านไปแป๊ปเดียวลามมาถึงชั้นสอง
คณพศอุ้มนาราขึ้นแล้วพูดว่า“คุณรีบเอาเสื้อปิดจมูก ผมพาคุณลงไป”
นาราทั้งตกใจทั้งกลัว เธออยู่ที่อกของคณพศแบบเงียบๆ แล้วเอาเสื้อปิดจมูกเอาไว้ แล้วเอามืออีกข้างปิดให้คณพศบ้าง
คณพศอุ้มนาราไว้แล้วลงไปที่ชั้นสอง แต่อุ้มถึงหน้าบันได ชั้นสองก็ไฟไหม้เหมือนกัน
ไฟไหม้แรงมาก ไฟแรงจนเหมือนจะกลืนกินห้างไปอย่างนั้นเลย
เห็นนาราที่อยู่ในอกของตัวเอง คณพศลังเลสักพัก ตอนนี้นาราท้องห้าเดือน เขาไม่กล้าอุ้มเธอลงไป กลัวว่าเธอจะโดนไฟ เขาไม่กล้าเสี่ยง
ไฟมาเรื่อยๆ คณพศเหมือนไฟไหม้ขนาดนี้ คิดอะไรไม่ออกเลยทีเดียว
ถ้านาราไม่ได้ท้อง เขาจะอุ้มเธอออกไปแน่นอน ไม่ว่าจะให้โดดตึก เขาก็จะรองให้นาราไม่ให้นาราได้เจ็บเลย
แต่ แต่ตอนนี้นาราท้องอยู่ จะตายยังไงเขาก็ไม่กล้าเสี่ยง
คณพศมองนาราไว้แบบเสียใจแล้วพูดว่า“คุณวันนี้เราจะโดนขังอยู่ที่นี่แล้วแหละ”
นาราไม่ได้พูดอะไร แต่แค่อิงอยู่ที่อกของเขา แค่ให้มีเขาอยู่ไปไหนนาราก็ยอมไปกับเขา
สองคนนี้รู้ใจกัน เขาทั้งสองพร้อมที่จะตายพร้อมกันอยู่แล้ว
ในเวลานั้นเอง คณพศได้ยินเสียงคุ้นๆ มีคนกำลังยืนอยู่ชั้นแรกของห้างเรียกชื่อเขาอยู่“คุณคณพศ !รีบไปประตูหลัง!”
คณพศอึ้งไปสองนาทีถึงรู้ว่านั่นเป็นเสียงของกาก้า
เขารู้จักเสียงของกาก้าดี แล้วรีบอุ้มนาราออกจากประตูหลังไป
ตอนที่คณพศวิ่งไปถึงที่ประตูหลัง ก็เห็นกระจกบานใหญ่ ด้านล่างก็เป็นถนนที่เต็มไปด้วยผู้คน
ในห้างไฟยังไหม้ไม่ถึงตรงนี้ คณพศวางนาราลงแล้วผลักหน้าต่างนั้นออก เห็นว่ากาก้ายืนอยู่นอกหน้าต่าง แล้วในมือก็ถือเชือกไว้