สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 350

ตอนที่ 350

ตอนที่ 350 ช่วยได้มากเลยทีเดียว

“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?” แม้ว่าสถานการณ์จะเร่งรีบ แต่ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ยังคงเอ่ยปากถามอย่างควบคุมเอาไว้ไม่ได้

“อย่าพูด”

เผยลี่เชินขมวดคิ้วเล็กน้อย ได้ยินเสียงที่บริเวณทางเลี้ยวด้านขวาดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ อยู่ๆเขาก็โน้มตัวลงมา ริมฝีปากเฉียดไปบนแก้มของหญิงสาว ใช้ร่างกายของตนเองบดบังเธอเอาไว้

ร่างกายของชายหนุ่มเดิมทีก็สูงใหญ่ บวกกับยังสวมเสื้อโค้ดขนแกะแบบยาว มือของเขายันกำแพงเอาไว้ แล้วใช้เสื้อบดบัง แทบจะคลุมทั้งตัวของไป๋เสว่เอ๋อร์เข้าไปข้างในอ้อมแขนของตนเอง

คนกลุ่มนั้นเดินออกมาจากบริเวณทางเลี้ยว มองเห็นฉากนี้ ต่างก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นบนใบหน้าของทุกคนก็ปรากฏรอยยิ้มที่ดูเหลาะแหละออกมา ท่าทีเย้ยหยันที่ไม่ต้องเอ่ยก็สามารถที่จะเข้าใจได้ ถูกเบี่ยงเบนความสนใจไปโดยอัตโนมัติ แม้แต่ชายหนุ่มสองคนที่เห็นไป๋เสว่เอ๋อร์เมื่อสักครู่นี้ก็ยังจำเธอไม่ได้

รอจนกระทั่งคนกลุ่มนั้นเดินจากไปไกลแล้ว ใบหน้าของเผยลี่เชินถึงได้ขยับถอยหลังออกไปเล็กน้อย แต่ท่าทางกลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

เขาขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย สีหน้าอึมครึมลงไปหลายระดับ “ใครให้คุณมาที่นี่?”

เห็นสีหน้าที่เคร่งขรึมภายในหนึ่งวินาทีของชายหนุ่ม ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็รู้สึกสำนึกผิดขึ้นมาอย่างประหลาด เธอเบนสายตาไปทางอื่น ตอบขึ้นอย่างไม่ตรงคำถามว่า “คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่?”

เผยลี่เชินท่าทีแข็งกร้าว “ตอบผมมาก่อน ทำไมคุณถึงต้องมาที่นี่?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์เห็นว่าไม่มีวิธีที่จะหลบเลี่ยง คำถามนี้ยังไงก็ต้องตอบออกมาให้ได้ เธอสูดหายใจเข้าเต็มปอด เอ่ยขึ้นอย่างเอื่อยๆว่า “ฉันได้ยินเรื่องในบริษัทแล้ว ถานปินยุยงผู้ถือหุ้น ปลุกระดมพนักงานให้เป็นปรปักษ์กับคุณ ดังนั้นฉันเลยคิดที่จะลงมือจากทางเฝิงเช่น ดูว่าจะสามารถได้รับข่าวสารอะไรบ้างหรือเปล่า”

ทันใดนั้น ปลายคางก็ถูกคนจับเอาไว้แน่น ไป๋เสว่เอ๋อร์เหลือบตาขึ้น กระทบเข้าไปในดวงตาที่ดำสนิทราวกับสีของน้ำหมึกคู่นั้นของชายหนุ่ม เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย สีหน้าเทียบกับเมื่อสักครู่นี้แล้วดูผ่อนคลายลงไปอย่างมาก

“ดังนั้น คุณกำลังเป็นห่วงผม?”

“เปล่า” ไป๋เสว่เอ๋อร์ปฏิเสธโดยจิตใต้สำนึก เงยหน้าขึ้นดึงปลายคางออกมาจากมือของเขาในทันที

ทันใดนั้น ใบหน้าของชายหนุ่มก็กดทับลงมา ประทับไปบนริมฝีปากที่อ่อนนุ่มของเธออย่างแม่นยำไม่มีผิดพลาด ฉกฉวยความหอมหวานของเธอด้วยการเคลื่อนไหวที่เผด็จการ

การเคลื่อนไหวที่เหนือความคาดหมายนี้ทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ตกใจไปยกใหญ่ เธอแทบจะยกมือคิดจะผลักชายหนุ่มออกไปโดยจิตใต้สำนึก กลับถูกเขาคว้ามือทั้งสองข้างเอาไว้อย่างแม่นยำอีกครั้ง ไม่มีกำลังที่จะต่อต้านเลยแม้แต่นิดเดียว

ระหว่างริมฝีปากกับฟัน เกิดความผิดพลาดจนได้รับบาดเจ็บอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ ริมฝีปากของไป๋เสว่เอ๋อร์ถูกเผยลี่เชินกัดเจ็บ จนส่งเสียงอุทานด้วยความเจ็บออกมาโดยไม่รู้ตัว

วินาทีต่อมา เผยลี่เชินก็คลายตัวเธอออก สีหน้าเยือกเย็นขึ้นมาเล็กน้อย “ผมรู้สึกได้ว่า คุณคิดถึงผมมาก”

“เปล่าค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์ปฏิเสธ แก้มทั้งสองข้างกลับแดงระเรื่อขึ้นมา เธอมองหาโอกาสที่แม่นยำ หลีกหนีออกมาจากอ้อมแขนของเขาด้วยความรวดเร็ว จากล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมาจากในกระเป๋ากางเกง นำบันทึกเสียงคำพูดที่เฝิงเช่นพูดเหล่านั้นเปิดให้เผยลี่เชินได้ฟัง

สีหน้าของเผยลี่เชินเปลี่ยนแปลงไปไม่มาก กลับยื่นมือออกไปกุมมือของเธอเอาไว้อย่างช้าๆ

ฟังบันทึกเสียงจบ เขาก็เอ่ยปากออกมาทีละคำทีละประโยคว่า “ถานปินมีความร่วมมือกับบริษัทการค้าระหว่างประเทศซือต๋าลับหลังบริษัท อาศัยชื่อของเผยซื่อ หากำไรจากเงินของเผยซื่อ เดิมทีผมก็สังเกตเห็นอยู่บ้าง แต่จับหาหลักฐานไม่ได้มาโดยตลอด ตอนนี้ หลักฐานและพยานต่างก็มีอยู่ ทั้งหมดครบถ้วนโดยสมบูรณ์แบบแล้ว”

ในขณะที่พูด เขาก็โน้มศีรษะลงมามองไป๋เสว่เอ๋อร์ สายตาลึกล้ำและจริงจัง “คราวนี้คุณช่วยผมเอาไว้ได้มากเลยทีเดียว”

ไม่ใช่การสารภาพที่แจ่มแจ้ง และก็ไม่ใช่การขอบคุณที่ตรงไปตรงมา บางทีอาจจะเป็นเพราะสีหน้าที่จริงใจและจริงจังมากเกินไปของเขา คิดไม่ถึงว่าจะทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกร้อนเร่าไปทั่วทั้งตัว ไม่รู้จะทำอย่างไรขึ้นมาในชั่วขณะ

ในขณะที่เธอกำลังลังเลไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับไปดีหรือไม่นั้น อยู่ๆเผยลี่เชินก็โน้มตัวและสายตาลงมา เข้ามาใกล้ข้างใบหูของเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกระซิบที่แผ่วเบาว่า “หลายวันมานี้ผมคิดถึงคุณมาก”

วินาทีนั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกเพียงแค่ เธอไม่อาจจะต่อต้านและปฏิเสธผู้ชายคนนี้ได้ เมื่อก่อนใช่ ตอนนี้ก็ใช่

บริเวณกกหูร้อนระอุขึ้นมาเล็กน้อย เธอกัดริมฝีปากแน่น เปลี่ยนหัวข้อสนทนาด้วยคำพูดที่อึกอัก “โจ๋วฝันกับเฝิงเช่นยังอยู่ในห้องรับรองพิเศษค่ะ”

พูดประโยคนี้จบ เธอก็ก้าวขาขึ้น เดินไปอีกด้านด้วยความรวดเร็ว

เผยลี่เชินรีบก้าวขาเดินตามเข้าไปในทันที

มาถึงยังห้องรับรองพิเศษ ผลักประตูให้เปิดออก โจ๋วฝันกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูพอดี คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “พี่เสว่เอ๋อร์ ในที่สุดพี่ก็กลับมา…”

ยังไม่ทันที่จะพูดจบ พอมองเห็นเผยลี่เชินที่ยืนอยู่ด้านหลังของไป๋เสว่เอ๋อร์ คำพูดของเขาก็ชะงักลง สีหน้าตื่นตะลึงขึ้นมาในทันที “ประธานเผย ทำไมถึง…”

เผยลี่เชินกวาดตามองเขาแวบนึงด้วยความเยือกเย็น เอ่ยปากขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ “ส่งแกมาปกป้องคุ้มครองเธอ แกกลับดีจริงๆ ตัวเองอยู่ในห้อง ให้เธอออกไปคนเดียว”

โจ๋วฝันก้มศีรษะลงเล็กน้อย เสียงก็ต่ำลงตามไปด้วย “คราวหน้าไม่เป็นแบบนี้อีกแล้วครับ”

ความคิดของไป๋เสว่เอ๋อร์อยู่ที่เฝิงเช่นที่เมาจนหลับไปแล้ว มองดูหญิงสาวที่ถูกกระชากปกคอเสื้อออก เธอก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย ก้าวขาเข้าไปติดกระดุมตรงปกคอเสื้อให้กับเธอ

หลังจากทำทุกสิ่งทุกอย่างนี้เสร็จ เธอก็หันหน้ากลับมามองที่เผยลี่เชิน “เธอจะทำยังไงดีคะ”

สายตาของเผยลี่เชินอึมครึมลงไปเล็กน้อย “กำเอาไว้ในมือก่อน นี่เป็นเบี้ยที่ดีที่สุดในการเจรจาต่อรองกับถานปิน”

พูดจบ เขาก็หันไปทางโจ๋วฝันที่ยืนอยู่ด้านข้าง พยักพเยิดหน้าส่งให้กับเขา “ถ่ายรูปสักสองสามรูป พวกเราไป กลับบริษัทกัน”

จุดอ่อนทุกอย่างพร้อมเพรียง หลักฐานมีแล้ว เบี้ยต่อรองก็มีแล้ว ตอนนี้ก็รอถานปินยอมศิโรราบแต่โดยดี

ไป๋เสว่เอ๋อร์ก้าวขาตามขึ้นมา เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ฉันไปกับพวกคุณด้วย”

ได้ยินดังนั้น เผยลี่เชินก็เลิกคิ้วขึ้นมา หันข้างมองไปทางเธอเล็กน้อย เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เบามาก แต่กลับแฝงไปด้วยความหมายของการออกคำสั่งอยู่หลายระดับ “คุณอยู่ที่นี่แหละ อีกสักครู่ผมให้กู้หลี่เหลียงส่งคนมารับ ส่งคุณกลับบ้าน”

ไป๋เสว่เอ๋อร์สายตาเด็ดเดี่ยว ไม่อ่อนข้อเลยแม้แต่น้อย “ฉันจะไปค่ะ”

มองดูสีหน้าท่าทางที่ดื้อดึงของหญิงสาว เผยลี่เชินรู้สึกเพียงแค่คันยุบยิบข้างในจิตใจ แทบอยากจะโอบตัวเธอเข้ามาไว้ข้างในอ้อมแขนในทันที แต่ติดอยู่ที่มีคนอยู่ด้านข้าง เขากลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อย กดทับความหุนหันพลันแล่นนั้นเอาไว้ มุมริมฝีปากยกสูงขึ้น “เป็นห่วงผม?”

สายตาของไป๋เสว่เอ๋อร์สะท้อนขึ้นมา กำลังจะอ้าปากปฏิเสธ อยู่ๆแขนก็ถูกคนจับเอาไว้แน่น เผยลี่เชินก้าวขาเดินไปข้างหน้าพร้อมกับดึงเธอไปด้วย พลางเดินพลางเอ่ยขึ้นมาว่า “พอดีเลย ผมก็อยากให้คุณไปด้วย”

ทั้งสามคนเดินออกจากคลับ ขึ้นมาบนรถ บรรยากาศกลับเป็นว่าเยือกเย็นลงมา ใจของไป๋เสว่เอ๋อร์เดี๋ยวเร่าร้อนเดี๋ยวเย็นยะเยือก ตัวเองยังไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร

ช่วงเวลาที่อยู่กับเผยลี่เชินแม้ว่าจะมีความสุขและยากที่จะลืมจริงๆ ทว่าหลังจากที่มีความสุขแล้วเธอก็ต้องไปเผชิญหน้ากับเรื่องราวที่เป็นชีวิตจริงสุดๆเหล่านั้นอย่างไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงได้

ความรู้สึกที่พัวพันกันอุตลุดแบบนี้ ดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องจนรถมาถึงที่หมาย

รถขับตรงมายังลานจอดรถที่อยู่ชั้นใต้ดิน ขึ้นลิฟต์ไปสู่ห้องทำงานของท่านประธาน พอประตูลิฟต์เปิดออก คิดไม่ถึงว่าไป๋เสว่เอ๋อร์จะได้ยินเสียงจ้อกแจ้กจอแจดังเข้ามาในทันที

ในชั้นนี้นอกจากห้องทำงานของท่านประธานแล้วก็คือห้องประชุมใหญ่ ปกติเป็นสถานที่ที่เงียบสงบที่สุดในบริษัท แต่เธอคิดไม่ถึงว่า นี่เพิ่งจะเดินออกมาจากลิฟต์ ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายต่างๆดังขึ้นมา

ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เหลือบสายตาสังเกตสีหน้าของเผยลี่เชิน ชายหนุ่มกลับนิ่งสงบ เพียงแต่ทั่วทั้งร่างกายปกคลุมไปด้วยความเยือกเย็นภายในชั่วพริบตา มืดมนน่ากลัวจนถึงขีดสุด

เดินไปพร้อมกับเขาเพียงแค่ไม่กี่ก้าว ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็มองเห็นกลุ่มคนบนระเบียงทางเดินที่อยู่ด้านหน้า มองเห็นพวกเขา คนเหล่านั้นก็เอ็ดตะโรขึ้นมาในทันที “ประธานเผยกลับมาแล้ว!”

ผู้คนเอ็ดตะโรทะลักกันเข้ามา โอบล้อมพวกเขาเอาไว้ในทันที

“ท่านประธานเผยคะ!เกี่ยวกับการปลดพนักงานในปลายปีของบริษัท ท่านสามารถให้คำแถลงที่ชัดเจนแก่พวกเราทุกคนจะได้ไหมคะ?”

“นั่นน่ะสิครับ!แผนการเติบโตขึ้นมาใหม่อะไรกัน ล้วนเป็นข้ออ้างอยากจะอาศัยโอกาสปลดพนักงานของพวกคุณน่ะสิ?”

“ผมทำงานที่เผยซื่อมาก็เจ็ดแปดปีแล้ว ตอนที่ท่านประธานเผยคนก่อนอยู่ผมก็อยู่ ทำไมตอนนี้ยังต้องเข้าร่วมการสอบวัดผลในปลายปีอีกล่ะครับ!”

“…”

เสียงที่แตกต่างกันทะลักเข้ามาราวกับคลื่นทะเลก็ไม่ปาน เสียงที่อ่อนโยน ร้อนรน ตื่นตระหนก และโมโหปะปนเข้าไว้ด้วยกัน เสียงดังจนไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกเพียงแค่สมองแทบจะระเบิดอยู่แล้ว

กลับไปที่เผยลี่เชิน ยืนอยู่ใจกลางของกลุ่มคน เป็นจุดศูนย์กลางที่รับแรงโมโห แต่เขานอกจากสายตาอึมครึมลงเล็กน้อยแล้ว อย่างอื่นก็ราวกับปกติทุกอย่าง

รู้สึกว่าพอสมควรแล้ว เผยลี่เชินก็ยกมือขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่รีบร้อนและดูมั่นคงหนักแน่น เสียงจากในกลุ่มคนก็ค่อยๆลดลงตามลงมา

เขามองไปยังทุกคน เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า “พูดจบหรือยัง?”

ชายหนุ่มราวกับมีสิ่งที่ทำให้คนได้รับอิทธิพลอยู่ในตัว เอ่ยประโยคนึงออกไปด้วยเสียงที่ไม่ดังมาก ทั้งสี่ด้านก็เงียบลงภายในชั่วพริบตา

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads แทงบอลออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน