สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 351

ตอนที่ 351

ตอนที่ 351 ต้องการความร่วมมือจากคุณ

ด้วยสไตล์การทำงานที่บริษัทในช่วงเวลาปกติของเผยลี่เชิน รวดเร็วและเฉียบขาด พูดคำไหนคำนั้น เป็นธรรมดาว่าไม่มีใครกล้าทำอย่างนี้ต่อหน้าเขา แต่ตอนนี้ถูกปลุกระดม คนเยอะอานุภาพก็ยิ่งมีมาก ความกล้าของพนักงานเหล่านี้ก็ต้องใหญ่ขึ้นเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ พอเผยลี่เชินเอ่ยปากพูดออกมา อานุภาพที่ไร้รูปทรงเปิดออกหมด ก็ยังคงทำให้ใจของผู้คนเกิดความหนาวเย็นขึ้นมาอย่างกะทันหัน ไม่กล้าบุ่มบ่ามทำอะไรโดยไม่ไตร่ตรองอีก

เผยลี่เชินกวาดตามองไปยังทุกคน แล้วเอ่ยปากออกมาด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “บริษัทมีกฎเกณฑ์ของบริษัท ผมดำเนินแผนการเติบโตขึ้นมาใหม่มีจุดมุ่งหมายเป็นของตนเอง ประกาศที่ส่งออกไปใช้หมึกดำเขียนไว้บนกระดาษสีขาวอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง พวกคุณมาที่นี่หรือว่าอยากจะให้ผมอธิบายให้กับพวกคุณทีละประโยค ทีละประโยคอย่างงั้นหรอ?”

พอประโยคนี้พูดออกไป กลุ่มคนก็เกิดความเงียบมากยิ่งขึ้น เผยลี่เชินเอ่ยปากขึ้นต่อไปด้วยน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติว่า “ตอนนี้รายชื่อต่างก็ยังไม่ได้ประกาศออกไป พวกคุณกลุ่มนี้วิ่งออกมาก่อความวุ่นวายขึ้น หากไม่ใช่ถูกคนยั่วยุ ก็คงจะเป็นเพราะในใจมีแผนการอะไรที่บอกใครไม่ได้ พวกคุณว่า ผมไม่ปลดพวกคุณออกปลดใครออก? ไม่แน่เดิมทีบนรายชื่ออาจจะไม่มีคุณ พวกคุณมารวมตัวกันถึงที่นี่ ช่างเพิ่มคุณงามความดีให้กับตนเองจริงๆ!”

สีหน้าของทุกคนแตกต่างกันออกไป บางคนมองไปยังเพื่อนร่วมงานที่อยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าที่หวาดหวั่น รู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อยๆ

“ท่านประธานเผย…พวกเราก็ไม่ใช่ว่าอยากจะมาก่อความวุ่นวาย เพียงแต่ตอนนี้เรื่องการปลดพนักงานออกได้สร้างความวุ่นวายจนจิตใจของทุกคนหวาดหวั่นไปหมด พวกเราไม่รู้ว่าจะทำยังไงถึงได้เป็นเช่นนี้…”

เผยลี่เชินเลิกคิ้วขึ้น นัยน์ตาส่องสะท้อนความเยือกเย็น “จิตใจของทุกคนหวาดหวั่น?” เผยลี่เชินอุทานออกมาอย่างประชดประชัน “พวกเราเผยซื่อไม่เคยคิดที่จะไล่พนักงานคนไหนด้วยเจตนาร้ายมาก่อน แต่ก็ไม่เลี้ยงคนที่ทำตัวไม่เป็นประโยชน์เอาไว้โดยเด็ดขาด!พวกคุณฟังใครยุยงมาก่อความวุ่นวายให้ผมถึงที่นี่ มีโทษไร้ประโยชน์ต่อผลลัพธ์สุดท้ายอย่างแน่นอน ถูกคนหยิบมาใช้เป็นเครื่องมือ ถึงสุดท้ายยังแสร้งทำเป็นผู้บริสุทธิ์ คิดว่าตนเองจะสามารถตกลงมาอย่างดีได้จริงๆหรอ?”

ในกลุ่มคนเริ่มเกิดความวุ่นวายขึ้นมาเล็กน้อย บางคนรวมตัวเข้ามาใกล้แล้วกระซิบซาบกัน เห็นได้ชัดว่าเสียใจในภายหลังกับการหุนหันพลันแล่นในเวลานี้

“ต่างก็เป็นเพราะผู้ช่วยหลัว…เป็นเขาที่ปล่อยข่าวออกมา!”

คนในกลุ่มไม่รู้ว่าใครอยู่ๆก็โพล่งประโยคนี้ออกมา ตามมาด้วยเสียงพูดคล้อยตามอีกหลายเสียง

“ใช่ครับ!ยังมีผู้ช่วยของผู้ถือหุ้นคุณเฉิง…”

เสียงต่างๆมากมายดังขึ้น ต่อเนื่องกันไปเป็นระลอก

ไป๋เสว่เอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้าง ได้แอบจำชื่อที่ปรากฏออกมาเอาไว้ในใจหมดแล้ว คนส่วนใหญ่ ล้วนเป็นผู้ช่วยหรือเลขาของคณะผู้ถือหุ้น โดยทั่วไปต่างก็เป็นผู้ถือหุ้นเล็กๆ ดูเหมือนถานปินคงจะซื้อตัวหุ้นส่วนเล็กๆของทางคณะกรรมการผู้จัดการได้ไปพอสมควรแล้ว

คิ้วของเผยลี่เชินขมวดเข้าหากันแน่น รอจนกระทั่งเสียงเอะอะโวยวายของทุกคนสงบลง เขาก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า “ตอนนี้ทุกคนกลับไปทำงานกันได้แล้ว สำหรับการตรวจสอบปลายปีและแผนการเติบโตขึ้นมาใหม่จะยังคงดำเนินการตามแผนที่วางเอาไว้ ผมจะไม่ทำการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น และจะสามารถอยู่ต่อไปได้หรือไม่นั้น ก็อาศัยเพียงแค่ความสามารถของพวกคุณเอง”

ทิ้งประโยคนี้เอาไว้ จากนั้นเขาก็ก้าวขาเดินมุ่งหน้าต่อไป ทุกคนที่แต่เดิมล้อมเป็นวงรอบต่างก็หลีกทางให้เขาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

ไป๋เสว่เอ๋อร์ก้าวขาเดินตามเผยลี่เชินไปอย่างรวดเร็ว กลับมาถึงภายในของห้องทำงาน

“ตอนนี้หลักฐานทุกอย่างต่างก็สามารถแน่ใจได้แล้วว่า ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ล้วนเป็นฝีมือของถานปินที่คอยควบคุมอยู่เบื้องหลัง” ในขณะที่เธอพูด คิ้วก็ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “ตอนนี้พวกเราจะทำยังไงดีคะ?”

ตอนนี้พวกเขากลับมาถึงที่บริษัท หากไม่คิดหาวิธีลงมือเพื่อที่จะควบคุมอีกฝ่ายนึงเอาไว้ก่อน ไม่แน่รอจนกระทั่งถานปินได้รับรู้ข่าวสารอะไรมา พวกเขาค่อยคิดที่จะดำเนินการเกรงว่าก็คงจะไม่ทันเสียแล้ว

“ผมได้ให้ฉีเฟิงไปเชิญเขามาที่นี่ล่วงหน้าแล้ว อีกสักพักพวกเราตรงไปที่ห้องประชุมด้วยกัน”

ในขณะที่พูด เผยลี่เชินก็ก้าวขาเดินไปยังริมหน้าต่าง ยกมือขึ้นขยับเนคไท สีหน้าอึมครึมขึ้นมาเล็กน้อย เอ่ยปากพึมพำกับตัวเองว่า “ต่างก็เป็นเพื่อนเก่ากัน เปิดโปงไปตรงๆคงจะดูไม่ไว้หน้ามากเกินไป…”

ไม่ถึงสิบห้านาที โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะของเผยลี่เชินก็สั่นขึ้นสองสามที เขาไม่ได้รับสาย แต่กลับหันมาทางไป๋เสว่เอ๋อร์ที่ยืนอยู่ด้านข้างเล็กน้อย สายตาเคร่งขรึมและจริงจัง “อีกสักครู่ ก็ต้องขอความร่วมมือจากคุณแล้ว”

ไป๋เสว่เอ๋อร์เตรียมใจเอาไว้ตั้งนานแล้ว เธอมา ก็มาเพื่อร่วมมือกับเผยลี่เชิน

เธอพยักหน้าเล็กน้อย ก้าวขาเดินไปทางหน้าประตู ดึงประตูห้องให้เปิดออก ทั้งสองคนเดินเรียงแถวออกจากห้องทำงาน ตรงไปทางห้องประชุมในทันที

ฉีเฟิงยืนอยู่ด้านนอกประตูของห้องประชุมใหญ่ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมและจริงจัง พอมองเห็นเผยลี่เชิน เขาก็พยักหน้าเล็กน้อย “คนอยู่ด้านในแล้วครับ”

เผยลี่เชินพยักหน้า ก้าวขาเดินเข้าไปโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

ถานปินนั่งอยู่ข้างโต๊ะประชุมขนาดใหญ่ สีหน้ามืดมนเล็กน้อย ในวินาทีที่มองเห็นเผยลี่เชินนั้น เขาไม่ได้ยืนขึ้น เพียงแต่เงยหน้าขึ้นมา เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ “ลี่เชิน นี่คุณกำลังทำอะไร? ให้คนไปจับผมมาเลย ทั้งยังไม่พูดอะไร ไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ จะพูดยังไงผมก็เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัท คุณทำเช่นนี้กับผม เกินไปหน่อยแล้วหรือเปล่า?”

เผยลี่เชินยกมุมริมฝีปากขึ้นมาเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้ออกมาจากใจ “คุณอาถานทำเรื่องที่ผิดต่อบริษัทอย่างลับๆตั้งมากมาย ไม่จับคุณอาจับใครล่ะครับ?”

“พูดจาซี้ซั้วอะไร?” ถานปินขมวดคิ้วขึ้น พอมองเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ที่อยู่ด้านหลังของเผยลี่เชิน สีหน้าก็ยิ่งดูไม่ได้มากขึ้นไปอีก “คราวก่อนไม่ได้บอกแล้วหรอว่าให้ผู้หญิงคนนี้หยุดพักงาน? ทำไมเธอถึงได้กลับมาอีก?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์หัวเราะขึ้นเบาๆพร้อมกับเอ่ยปาก “ผู้ถือหุ้นคุณถานต่างก็ยังเอาตัวเองไม่รอด คิดไม่ถึงว่ายังจะรำลึกถึงฉันได้ขนาดนี้ ฉันนี่ได้รับความโปรดปรานจนน่าประหลาดใจจริงๆนะคะ”

ถานปินมองดูคนสองคนที่ส่งยิ้มหวานจ้องมองเขาอยู่ที่ด้านหน้า ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโมโหข้างในจิตใจ “ลี่เชิน คุณเรียกผมมา เป็นเพราะเรื่องอะไรกันแน่?”

“มีรูปสองสามรูปอยากจะให้คุณอาดูสักหน่อย” ในขณะที่เผยลี่เชินพูด ก็หันข้างมองไปทางไป๋เสว่เอ๋อร์เล็กน้อย ไป๋เสว่เอ๋อร์เข้าใจขึ้นมาในทันที ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมา กดเปิดรูปสองสามรูปที่โจ๋วฝันส่งมาให้กับเธอเมื่อสักครู่นี้ จากนั้นยื่นไปที่ด้านหน้าของถานปิน

เพียงแค่แวบเดียว สีหน้าของถานปินก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก เขาหันไปมองเผยลี่เชินด้วยท่าทีที่ตกตะลึง ยกเสียงขึ้นสูงเอ่ยถามย้อนกลับด้วยเสียงที่โมโหจัดว่า “แกทำอะไรกับเช่นเช่น!”

เผยลี่เชินเดินไปยังที่นั่งหลักของห้องประชุม จากนั้นนั่งลงไปอย่างช้าๆ “วางใจครับ ผมไม่ได้มีความสนใจต่อเธอเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ตอนนี้เธอ ก็อยู่ในมือของผมจริงๆ”

ถานปินโกรธจัด ไร้สติสัมปชัญญะขึ้นมาภายในชั่วพริบตา เขาเอ่ยถามด้วยร่างกายที่สั่นเทาว่า “แกคิดจะเอายังไงกันแน่?”

“นำเงินสกปรกเหล่านั้นที่คุณหามาจากชื่อเสียงของเผยซื่อออกมาให้หมดโดยไม่ขาดแม้แต่สลึงเดียว มิเช่นนั้นผมจะแจ้งตำรวจภายในทันที ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ถึงเวลาเกรงว่าคุณไม่เพียงแต่ปล่อยเลือดออกมาเพียงเล็กน้อยง่ายๆขนาดนั้นแล้ว”

“แกพูดจาซี้ซั้วอะไร!” สีหน้าของถานปินแดงก่ำ มือที่ยกขึ้นมาล้วนยังสั่นเทา

ไป๋เสว่เอ๋อร์เห็นโอกาสพอสมควรแล้ว เธอก้าวขาขึ้นไปข้างหน้าเล็กน้อย จ้องถานปินพร้อมเอ่ยออกมาทีละคำทีละประโยคว่า “ผู้ถือหุ้นคุณถานคงยังไม่รู้ล่ะมั้งคะ หลานสาวคนดีของคุณนำเรื่องลับหลังเหล่านั้นของคุณป่าวประกาศออกไปตั้งนานแล้ว วันนี้หากไม่ใช่ท่านประธานเผย เกรงว่าหลานสาวของคุณยังจะถูกเพื่อนที่ไม่น่าไว้ใจเหล่านั้นของเธอเวียนกันกระทำชำเราแล้ว!ตอนนี้เห็นแก่มิตรภาพเก่า ประธานเผยถึงไม่ได้นำคุณส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากคุณยังไม่ยอมรับอีก งั้นพวกเราก็ทำได้เพียงแยกงานออกจากเรื่องส่วนตัวแล้วล่ะค่ะ”

“เป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาด!” ถานปินตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างจนแทบจะแยกออกจากกัน ดวงตาทั้งสองข้างของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือด เป็นความรู้สึกที่โมโหจนถึงขีดสุดแต่กลับไม่สามารถจะทำอะไรได้

“ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ คุณอาถาน เรื่องเหล่านั้นที่ตัวคุณอาเองทำอยู่เบื้องหลัง เกรงว่าคงจะชัดเจนกว่าผมล่ะมั้งครับ ผมก็จะไม่พูดแล้ว สำหรับการร่วมมือกับซือต๋าเหล่านี้ผมรู้หมด ยังมีการกระจายข่าวลือในบริษัท ปลุกปั่นจิตใจของผู้คน ดึงพวกก่อตั้งพรรค เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของคุณอาทั้งหมดหรอกหรอครับ?”

“หึ!เผยลี่เชิน แกไม่ได้มีความสามารถในการนั่งอยู่บนตำแหน่งนี้เลยแม้แต่น้อย!” ถานปินถูกกระตุ้นให้เกิดความโมโหจนถึงขีดสุดราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนโดยสมบูรณ์แบบ และก็คิดว่าไม่คุ้มค่าพอที่จะปกปิดต่อไปอีกแล้ว “ก่อนหน้านี้ฉันตามท่านประธานเผยคนก่อน เป็นเพราะฉันนับถือในความสามารถของท่าน!แต่ตอนนี้คือแก ฉันไม่นับถือ!ความเด็ดเดี่ยวและความทะเยอทะยานของแก เทียบไม่ได้แม้เพียงหนึ่งในสิบของพ่อของแก!ลังเลไม่กล้าตัดสินใจ ให้ความสนใจกับความรักมากเกินความพอดี ถุ้ย!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์คิดไม่ถึงว่าถานปินจะพูดออกมาเช่นนี้อย่างเห็นได้ชัด เธอขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย สีหน้าอึมครึมลงไปหลายระดับ หันไปสังเกตสีหน้าของเผยลี่เชินด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที สิ่งที่เห็นมีเพียงแค่ชายหนุ่มที่ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกอย่างกะทันหัน ไม่ช้า ทางนั้นก็รับสาย

สายตาของเขานิ่งไม่กระพริบเลยแม้แต่นิดเดียว พร้อมกับเอ่ยปากขึ้นภายในทันทีว่า “โจ๋วฝัน นำเฝิงเช่นส่งกลับไปยังห้องรับรองพิเศษหมายเลข508 แล้วแต่เพื่อนของเธอเหล่านั้นจะทำอะไรกับเธอ”

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads แทงบอลออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน