กำเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System) – ตอนที่ 74

ตอนที่ 74

การพูดคุยกันภายในกลุ่มดีกว่าที่โนอาห์คิดไว้มากหลังจากเหตุการณ์ระหว่างเขากับเจมส์ และหลังจากที่คาร์ลอสพยายามทำให้อารมณ์ดีขึ้น ทุกคนก็สามารถพูดคุยและสนุกกันได้อีกครั้ง สภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายและอาหารอร่อยเป็นปัจจัยสำคัญในกระบวนการนี้เช่นกัน เพราะท้ายที่สุดแล้วต่อให้มีอาหารอร่อยมาให้กินขนาดไหนแต่ถ้าอารมณ์ของคนกินเต็มไปด้วยความเศร้าคนที่กินก็จะไม่อร่อยอยู่ดี และคาร์ลอสก็ยังบอกว่าเขาจะเป็นคนเลี้ยงในครั้งนี้เองอีกด้วย

โนอาห์คุ้นเคยกับคาร์ลอสอยู่แล้วเขาจึงไม่ได้สนใจเรื่องมารยาทและกินจนกว่าเขาจะพอใจ เขารู้ว่าด้วยตัวเขาเองเขาจะไม่สามารถจ่ายค่าอาหารที่ร้านอาหารนี้ได้ในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงเพลิดเพลินกับอาหารฟรีอย่างสุดหัวใจและเขาจะกินจนไม่สามารถหาอะไรยัดลงไปในท้องของเขาได้อีก

สมาชิกคนอื่นๆในทีมยังคงรู้สึกละอายใจเล็กน้อยที่ต้องกินของมากๆด้วยค่าใช้จ่ายของคาร์ลอส เนื่องจากแม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพื่อนกัน แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนิทกันมากจนพวกเขาสามารถกินได้โดยที่ไม่ต้องสนใจเรื่องราคาที่เพื่อนของเขาจะต้องจ่ายให้ขนาดนั้น แต่เมื่อพวกเขาเห็นโนอาห์กินอาหารเกือบทั้งหมดบนโต๊ะ พวกเขาก็เริ่มไม่สนใจความรู้สึกนั้นและเริ่มกินราวกับว่าอาหารทั้งหมดจะหายไปจากโต๊ะถ้าไม่มีใครกิน

จากโต๊ะที่เป็นการทานอาหารของพี่น้องและเพื่อนๆที่กินกันอย่างสงบในตอนแรก ในขณะนี้ก็เปลี่ยนเป็นโต๊ะที่เป็นสนามรบที่ผู้แข็งแกร่งจะท้องอิ่มส่วนผู้อ่อนแอจะทำได้เพียงอิจฉาริษยาและปรารถนาที่จะกินมากขึ้น ในท้ายที่สุดทุกคนก็ต่างพากันหัวเราะกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเรื่องนี้ก็ทำให้พวกเขาสนิทกันมากขึ้นกว่าเดิม

วันนี้เป็นวันที่โนอาห์ตัดสินใจพักผ่อน เขาจะไม่เล่น Valorwatch เขาจะไม่ค้นคว้าอะไรเลย เป้าหมายของโนอาห์ในวันนี้คือพักกล้ามเนื้อและจิตใจเพื่อป้อมปราการที่กลุ่มของเขาจะบุกโจมตีในวันพรุ่งนี้

เนื่องจากพวกเขาได้ตัดสินใจบุกโจมตีป้อมปราการระดับ D สมาชิกทุกคนในกลุ่มบุกของแจสเปอร์จึงตัดสินใจพักในวันนี้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันถัดไป พวกเขาต้องการอยู่ในจุดสูงสุดของทุกด้านสำหรับการบุกโจมตีป้อมปราการระดับ D ในครั้งนี้ ดังนั้นวันนี้ทั้งวันโนอาห์จึงใช้เวลาที่เหลือเพื่อเล่นกับลิลิธและเทอเรนซ์ และทำอาหารให้กับพวกเขา

เนื่องจากไข่อื่นๆยังไม่ฟัก โนอาห์จึงขายพวกมันไป เขาพอใจกับการแบ่งปันบ้านกับลิลิธและเทอเรนซ์ เพราะมันทำให้บ้านของเขามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งหนึ่งซึ่งก่อนหน้านี้มันเคยโดดเดี่ยวมากสำหรับเขา การมีอีกสองชีวิตที่ต้องดูแล เอาใจใส่ และเล่นด้วย ได้เปลี่ยนบรรยากาศในบ้านของโนอาห์ ซึ่งก่อนหน้านี้บ้านหลังนี้มีเพียงความโศกเศร้าและความรู้สึกแย่ๆของความคิดถึงเท่านั้น ตอนนี้มันเป็นหนึ่งในความสุขและความทรงจำที่ดีที่พวกเขาสร้างขึ้นด้วยกัน

วันที่เงียบสงบได้ผ่านไป โนอาห์นอนพักและตื่นขึ้นมาด้วยจิตใจที่แจ่มใสในวันถัดมา

เขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกดีๆและตื่นก่อนที่นาฬิกาปลุกของเขาจะดังขึ้นด้วยซ้ำ

กลุ่มของเขามีกำหนดจะพบกันที่สำนักงานใหญ่ของ GBC เพื่อไปที่ป้อมปราการระดับ D

ป้อมปราการที่ผู้ถูกเลือกสามารถใช้รถบัสของ GBC ในการไปได้คือป้อมปราการในระดับ F และ E เท่านั้น ตั้งแต่ป้อมปราการระดับ D เป็นต้นไป ผู้ถูกเลือกจะต้องไปที่นั่นด้วยตนเอง

เหตุผลที่เป็นยังงี้เนื่องจากจำนวนผู้ถูกเลือกที่อยู่ในระดับนี้น้อยกว่าก่อนหน้านี้มาก และผู้ถูกเลือกระดับสูงส่วนใหญ่จะเปลี่ยนที่นัดเจอเป็นที่อื่นเพื่อความง่ายและสะดวกในการไปที่ป้อมปราการให้มากขึ้น อีกทั้งผู้ถูกเลือกระดับ D มีจำนวนน้อย เงินเดือนที่พวกเขาได้รับจึงสูงพอที่พวกเขาจะสามารถใช้ชีวิตที่หรูหรา พวกเขาสามารถซื้อรถได้ทุกเมื่อที่พวกเขาต้องการ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้ถูกเลือกระดับ D แต่ละคนจะไปที่ป้อมปราการด้วยรถของตัวเองแทนที่จะไปด้วยกัน

หากผู้ถูกเลือกเสียชีวิตในป้อมปราการ GBC จะเรียกคนในครอบครัวให้มารับรถไป หรือถ้าไม่มีใครมาพวกเขาก็จะขายรถและเก็บค่ารถไว้ 20% ก่อนที่จะส่งเงินที่เหลือคืนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต

จำนวนเงิน 20% นี้อาจจะดูเหมือนไม่มากนัก แต่ถ้าหากลองคำนวณดูจากทุกวันนี้ที่มีผู้ถูกเลือกระดับ D หรือสูงกว่านั้นเสียชีวิต จำนวนเงินที่ GBC ได้รับจากการขายรถยนต์หรูหราที่ผู้ถูกเลือกระดับสูงใช้นั้นมีจำนวนสูงเป็นอย่างมากเลยทีเดียว บ่อยครั้งที่รถเหล่านี้ถูกขายให้กับผู้ถูกเลือกคนอื่นๆพร้อมกับส่วนลดจากราคาขายรถปกติ เนื่องจากผู้ถูกเลือกมีเงินมากขึ้นและต้องการรถที่ดี GBC จึงตัดสินใจที่จะขายรถให้เร็วที่สุดในตอนที่ผู้ถูกเลือกเสียชีวิต เพราะพวกเขาจะได้ไม่ต้องเก็บรถไว้และจะได้นำรถของผู้ถูกเลือกที่เสียชีวิตคนอื่นๆมาขายอีก ทำให้ GBC เป็นเหมือนโรงงานผลิตรถยนต์ที่มีรถยนต์มาให้ซื้อได้ไม่มีที่สิ้นสุด

น่าเสียดายที่ผู้ถูกเลือกระดับ E ทุกคนในกลุ่มของพวกเขาไม่มีรถ ดังนั้นเพื่อให้ง่ายขึ้นสำหรับคนเหล่านี้ในป้อมปราการระดับ D ครั้งแรกของพวกเขา คนในกลุ่มจึงตัดสินใจที่จะมาพบกันที่สำนักงานใหญ่ GBC และรับพวกเขาไปที่ป้อมปราการ

โนอาห์เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนี้ที่ต้องนั่งรถไปยังป้อมปราการ และเขาลงเอยด้วยการเดินทางไปพร้อมกับแจสเปอร์ซึ่งตลอดการเดินทางของเขาเขาบ่นว่าโนอาห์จะต้องช่วยเขาควบคุมมอนเตอร์ด้วย

ท้ายที่สุดแล้วโนอาห์ก็ตกลงว่าจะช่วยเขาทำหน้าที่นั้น นั่นทำให้แจสเปอร์เซอร์ไพรส์เป็นอย่างมากที่ในที่สุดโนอาห์ก็ตัดสินใจช่วยเขาสักที

ก่อนหน้านี้ที่โนอาห์ไม่ได้ช่วยแจสเปอร์เพราะเขาเชื่อมั่นในความสามารถของแจสเปอร์ในการทำหน้าที่สอดแนมให้กับทีม แต่ในป้อมปราการระดับ D ที่พวกเขาไม่คุ้นเคย โนอาห์จะไม่ยอมให้แจสเปอร์เสี่ยงตัวเองโดยไม่จำเป็นดังนั้นเขาจึงตกลงที่จะช่วยเหลือแจสเปอร์สำหรับป้อมปราการระดับ D ครั้งแรกของพวกเขา

จนถึงตอนนี้ มีเพียงแจสเปอร์เท่านั้นที่รู้ว่าโนอาห์ทำอะไรได้บ้าง และรู้ว่าโนอาห์สามารถเทเลพอร์ตได้ เนื่องจากตลอดสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมานี้โนอาห์ไม่จำเป็นต้องใช้ความสามารถนี้ในการบุกป้อมปราการเลย นั่นทำให้มาร์เซลแน่ใจอย่างยิ่งว่าเขาได้เลือกถูกต้องแล้วที่ให้โนอาห์เป็นนักเวทย์หลักของกลุ่ม และนั่นทำให้แจสเปอร์สิ้นหวังเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม คราวนี้แจสเปอร์รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เขาต้องการเห็นปฏิกิริยาของมาร์เซลเมื่อเขาเห็นว่าโนอาห์เป็นนักฆ่าได้ดีกว่านักเวทย์ แจสเปอร์รู้ดีว่าโนอาห์เป็นนักเวทย์ที่ดีจริงๆ แม้ว่าเขาจะเก่งที่สุดในกลุ่ม เก่งมากจนเขาถูกมองว่าเขาเป็นนักเวทย์หลักของกลุ่ม แต่ระหว่างนักเวทย์ที่เผามอนเตอร์เป็นครั้งคราวกับหน่วยสอดแนมที่สามารถเทเลพอร์ตได้อย่างบ้าคลั่งและสังหารมอนเตอร์เหมือนกับเด็ดดอกไม้ แจสเปอร์ชอบแบบหลังมากกว่า

ขณะที่พวกเขามุ่งหน้าไปยังป้อมปราการภายในรถออดี้ซีดานของแจสเปอร์ โนอาห์มองไปรอบๆภายในรถและชอบรถคันนี้มาก เขาไม่เคยหยุดเพื่อสังเกตรถมาก่อน แต่ในไม่ช้าเขาก็ต้องมีรถเพื่อไปที่ป้อมปราการ โนอาห์เริ่มดูรถบนท้องถนนมากขึ้น และคิดว่าคันไหนจะดีที่สุดสำหรับเขา คันไหนที่เขาจะรู้สึกสบายใจที่สุดหากเขาเป็นคนขับ และไม่ต้องพูดถึงว่าคันไหนน่าสนุกที่สุดอีกด้วย

โนอาห์ไม่ได้สังเกตตัวเองเลยในช่วงระยะหลังที่ผ่านมา แต่หลังจากอยู่กับลิลิธซึ่งตอนนี้กำลังพันข้อมือของเขาอยู่และการที่ได้คุยกับแม็กกี้เรื่องนี้มากขึ้นทำให้โนอาห์นึกถึงความสุขของตัวเองมากกว่าเมื่อก่อน

เมื่อก่อนความสุขของโนอาห์จะขึ้นอยู่กับแม็กกี้เท่านั้น แต่ตอนนี้เขาเริ่มให้ความสำคัญกับตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม โดยเขาจะพิจารณาเรื่องสนุกๆสำหรับตัวเขาเองเป็นความสำคัญเล็กๆน้อยๆซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีอยู่แล้ว

แต่แม็กกี้ยังคงเป็นเป้าหมายหลักของเขาเหมือนเดิม โนอาห์รู้สึกดีเพราะเขาสามารถเห็นตัวเองได้ในอนาคตอันใกล้ได้รับเงินพอที่จะจ่ายค่ารักษาพยายามของแม็กกี้และทำให้เธอได้ออกจากโรงพยาบาล แม้ว่าเธอจะพยายามทำให้ตัวโนอาห์รู้ว่าเธอพอใจกับทุกอย่างแล้ว และเธอไม่ได้ทุกข์ทรมานกับสิ่งที่เธอเป็นอยู่ แต่โนอาห์ก็ยังรู้ว่าน้องสาวของเขาคนนี้ยังไม่ได้มีความสุขขนาดนั้น

และตอนนี้โนอาห์มีโอกาสที่จะก้าวไปอีกขั้นในแผนการของเขาที่เขาจะแข็งแกร่งขึ้น เพื่อที่เขาจะได้มีเงินเพียงพอที่จะดูแลน้องสาวของเขาได้

เมื่อมองจากระยะไกล โนอาห์สามารถเห็นประตูมิติที่ใช้ในการเข้าสู่ป้อมปราการได้แล้ว ประตูมิติที่จะพาเขาไปยังที่ซึ่งทำให้เขาพัฒนาไปที่ระดับ 3

เขาหวังว่าเขาจะแข็งแกร่งมากขึ้นจากทักษะที่เขากำลังจะได้จากการพัฒนาในครั้งนี้ เขาคาดหวังถึงการวิวัฒนาการอันทรงพลังของเปลวไฟแห่งนรก หรือบางทีอาจจะเป็นอุโมงค์นรกที่พัฒนาขึ้นจนทำให้เขาสามารถใช้มันได้บ่อยมากขึ้น

นี่คงเป็นวิวัฒนาการครั้งใหญ่ครั้งแรกของโนอาห์ โนอาห์ต้องการให้ป้อมปราการระดับ D ในครั้งนี้ที่จะให้ค่าประสบการณ์มากมายกับเขาทำให้ทักษะทั้งหมดของเขาถูกพัฒนาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระดับของเปลวไฟแห่งนรกและอุโมค์นรก และยังไม่ต้องพูดถึงว่าเลเวลของโนอาห์กำลังจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับถัดไปแล้วเช่นกัน ทั้งยังค่าประสบการณ์ในส่วนที่เหลือก็จะไปหาลิลิธและทำให้เธอฟื้นตัวขึ้นได้ในที่สุด และนั่นอาจจะทำให้ความสามารถของเธอถูกปลดล็อคได้เช่นกัน

โนอาห์มั่นใจว่าเขาที่เข้าสู่ป้อมปราการแห่งนี้นั่นแข็งแกร่ง แต่เขาที่จะออกมาจากป้อมปราการแห่งนี้จะต้องแข็งแกร่งกว่าตัวเขาในปัจจุบันนี้อย่างแน่นอน

และนั่นไม่ใช่เพราะสถานการณ์ความเป็นความตายที่เขาจะต้องประสบในป้อมปราการแห่งนี้ แต่มันมาจากระบบที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา และตอนนี้มันกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่โนอาห์ตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้เห็นมัน

กำเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System)

กำเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System)

Status: Ongoing

แนว: System, Evolution, Demon, Magic, R-18, Action, God, RPG System, LIT RPG

ผู้แต่ง : Zhanye

ผู้แปลไทย : okanetae

เรื่องย่อ

ในช่วงศตวรรษที่ 21 พระเจ้าได้หยุดฟังคำอธิษฐานของมนุษยชาติ และด้วยเหตุผลนั้นทำให้มอนเตอร์ที่มีความแข็งแรงและพละกำลังมหาศาลเริ่มปรากฏตัวขึ้น เป็นสาเหตุให้มนุษยชาติเข้าสู่ช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง มนุษยชาติบางคนทั่วทุกมุมโลกเริ่มได้รับพลังบางอย่างมา ทำให้คนเหล่านี้มีพลังในฐานะวีรบุรุษที่ต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของโลก ดังนั่นมนุษยชาติจึงเริ่มสามารถต่อสู้กับเหล่ามอนเตอร์ได้อีกครั้ง

ในบรรดาคนเหล่านี้มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งชื่อ ‘โนอาร์’ ซึ่งแม้ว่าเขาจะได้รับพลัง แต่เขาก็รู้ดีว่าพลังเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นเลย มันแค่ทำให้เขาแข็งแกร่งเหมือนผู้ใหญ่ทั่วไปเท่านั้น

แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับเขา เมื่ออยู่ๆระบบที่ไม่รู้จักก็ได้ตื่นขึ้นและประกาศว่าเขาเป็นลูกหลานของ ‘จอมมารลูซิเฟอร์’ และด้วยการตื่นขึ้นของระบบก็ได้เปลี่ยนชีวิตของเขาไปสู่เส้นทางแห่งความจริงและพลังที่แท้จริงของเขา

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท