กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ – ตอนที่ 23 รับตั๋วห้องส่วนตัว

กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ

        ผู้ดูแลหลู่มองไปทางอวิ๋นโม่ แสดงท่าทางให้อีกฝ่ายพูดต่อ เขาอยู่ในเมืองกวนซานเจิ้นมาหลายปี รู้ว่าเมืองนี้คือดินแดนของสามตระกูลใหญ่ เด็กหนุ่มตรงหน้าบ่มเพาะพลังถึงแค่ระดับเสริมกำลังกลับกล้าท้าทายคนจากตระกูลฉิน ช่างเป็นคนน่าสนใจ เขามองสำรวจ คนผู้นี้มีดีอะไรจึงกล้าผิดใจกับตระกูลฉิน

        อวิ๋นโม่เอ่ยอย่างนุ่มนวล “ขอถามผู้ดูแลหลู่ จุดประสงค์ที่โรงประมูลมาเปิดสาขาที่นี่คืออะไร”

        ผู้ดูแลหลู่ยังไม่ทันตอบ เด็กขายตั๋วผู้นั้นก็พูดแทรก “ย่อมเป็นการจัดงานประมูลชั้นดีให้ผู้คนในเมืองกวนซานเจิ้น และแน่นอนว่าเพื่อรายได้”

        “ไม่ผิด!” อวิ๋นโม่พยักหน้า “งานประมูลมาจัดที่นี่ย่อมต้องคิดอยากมีรายได้เพิ่มเติม เช่นนี้ ในเมื่อข้าสามารถเพิ่มรายได้ให้โรงประมูล แล้วไยสถานจัดงานประมูลจึงไม่ขายตั๋วห้องส่วนตัวให้ข้า”

        “เจ้า” เด็กขายตั๋วมองอวิ๋นโม่รอบหนึ่ง แววตาทั้งไม่กล้าดูถูกและไม่กล้าเห็นด้วย แม้อวิ๋นโม่จะชนะฉินเหอหลิน แต่อย่างไรก็เป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับเสริมกำลังเท่านั้น แค่ระดับเสริมกำลังจะมีเงินสักเท่าไร แต่ฉินเหอหลินนั้นไม่เหมือนกัน เบื้องหลังของเขายังมีตระกูลฉินทั้งตระกูลอยู่

        ผู้ดูแลหลู่ไม่ได้มองข้ามอวิ๋นโม่ แต่ถามอย่างสนใจ “หือ? น้องชายยังมีเงินมากกว่านายน้อยฉินอีกหรือ” 

        บนโลกใบนี้ หากไม่มีกำลังอำนาจก็ไม่สามารถทำอะไรได้ทั้งสิ้น หากอวิ๋นโม่ไม่ได้มีคุณค่ามากกว่าฉินเหอหลิน โรงประมูลไม่มีทางเสี่ยงล่วงเกินตระกูลฉินด้วยการขายตั๋วให้อวิ๋นโม่แน่นอน

        อวิ๋นโม่วางมือบนโต๊ะขายตั๋วพร้อมโน้มตัวไปด้านหน้า “เขาก็แค่ผู้เยาว์ของตระกูลฉิน ไม่อยู่ในสายตาของข้า จุดประสงค์ของข้าคือถุงเฉียนคุน แม้ไม่อาจพูดว่าจะได้มาแน่นอน แต่ความสามารถในการช่วงชิงย่อมมีอยู่”

        “หืม?” ดวงตาของผู้ดูแลหลู่เป็นประกายขึ้นมา กล้าเอ่ยถึงถุงเฉียนคุน เช่นนั้นฐานะของคนผู้นี้ย่อมไม่เลว ถึงสุดท้ายแล้วเขาอาจประมูลไม่ได้ แต่เมื่อมีคนร่วมประมูลเพิ่มขึ้นอีกคน คุณค่าของถุงเฉียนคุนย่อมเพิ่มขึ้นอีก นี่เป็นสิ่งที่ฝ่ายจัดงานประมูลต้องการเห็น คนที่ต้องการแย่งชิงถุงเฉียนคุนยิ่งมากก็ยิ่งดี

        เด็กขายตั๋วอดเหยียดยิ้มไม่ได้ เอ่ยว่า “อย่างเจ้าเนี่ยนะจะร่วมประมูลถุงเฉียนคุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าถุงเฉียนคุนล้ำค่าขนาดไหน คนที่สามารถร่วมประมูลถุงเฉียนคุนจะมาซื้อห้องส่วนตัวอักษรมนุษย์หรือ”

        อวิ๋นโม่ปรายตามองคนขายตั๋วปราดหนึ่งก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “ข้าเพียงมาช้าไปบ้างเท่านั้น หากเจ้าสามารถหาตั๋วห้องอักษรสวรรค์มา ข้าก็ไม่รังเกียจ เพียงแต่เจ้ามีหรือไม่”

        เด็กขายตั๋วชะงักไป ตั๋วห้องส่วนตัวอักษรสวรรค์ล้วนถูกพวกตระกูลใหญ่ซื้อไปหมดแล้ว มันที่เป็นเด็กขายตั๋วตัวเล็กๆ จะมีความสามารถไปหามาใบหนึ่งได้อย่างไร

        “การประมูลครั้งนี้ มีแต่ถุงเฉียนคุนที่มีค่า สิ่งของอื่นๆ ล้วนไม่ต้องพูดถึง” อวิ๋นโม่เบ้ปาก ชาติก่อนเขาเคยเห็นของดีๆ มานักต่อนัก ของที่เมืองกวนซานเจิ้นนำมาประมูล ในสายตาของอวิ๋นโม่แล้วก็คือขยะดีๆ นี่เอง โดยเฉพาะพวกโอสถลูกกลอนและโอสถน้ำเหล่านั้นล้วนไม่ได้เรื่อง โอสถลูกกลอนที่จริงไม่อาจเรียกว่าโอสถ แต่เป็นแค่ยาลูกกลอนหยาบๆ เท่านั้น

        ผู้ดูแลหลู่หรี่ตา เขาเป็นผู้สูงอายุที่มากประสบการณ์ ฟังคำพูดของอวิ๋นโม่เมื่อครู่ก็รู้ว่าอีกฝ่ายพูดความจริง การเหยียดหยามประเภทนี้ไม่อาจเสแสร้ง ต้องเป็นผู้มากประสบการณ์สายตาสูงส่งจึงจะมีทัศนคติเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงมั่นใจว่า คนสวมหน้ากากตรงหน้าจะต้องเข้าร่วมการประมูลถุงเฉียนคุนแน่นอน

        หลังจากใคร่ครวญครู่หนึ่ง ผู้ดูแลหลู่ก็ตัดสินใจเด็ดขาด สั่งเด็กขายตั๋วที่อยู่ข้างกาย “มอบตั๋วห้องส่วนตัวใบสุดท้ายให้น้องชายผู้นี้”

        เด็กขายตั๋วถึงกับตาเบิกโพลง มองผู้ดูแลหลู่อย่างไม่คาดฝัน รีบร้อนเอ่ยว่า “แต่ผู้ดูแลหลู่…” นั่นเป็นว่าที่เจ้าบ้านคนต่อไปของตระกูลฉินเชียวนะ หากผิดใจกับเขาก็เท่ากับผิดใจกับตระกูลฉิน สำหรับโรงประมูลนับเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญ

        “หุบปาก!” ผู้ดูแลหลู่เอ่ยขัด จากนั้นลดเสียงลง “เด็กอย่างเจ้า เรื่องที่ต้องเรียนรู้ยังมีอีกมาก!” 

        “ขอรับ” เด็กขายตั๋วถูกห้ามปรามก็ได้แต่ก้มหน้าขมวดคิ้ว จากนั้นนำตั๋วห้องส่วนตัวใบสุดท้ายออกมา 

        ผู้ดูแลหลู่ประคองสองหมัดหันไปทางฉินเหอหลินที่อยู่ไกลออกไปพร้อมกล่าวขอขมา “ขออภัยนายน้อยฉิน น้องชายผู้นี้มาเข้าแถวก่อนจริงๆ พวกเราไม่อาจฝืนกฎระเบียบ เอาเช่นนี้เถอะ สถานจัดงานประมูลของข้าจะมอบตั๋วธรรมดาหนึ่งใบให้นายน้อยฉินถือเป็นการขอขมา ท่านเห็นว่าอย่างไร”

        ผู้ดูแลหลู่ไม่เสียทีที่เป็นผู้ดูแล ไว้หน้าทุกๆ ฝ่าย จัดการขายตั๋วให้อวิ๋นโม่ ทั้งยังไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างโรงประมูลกับตระกูลฉิน

        ฉินเหอหลินมองผู้ดูแลหลู่อย่างยากจะเอ่ยคำพูด คิดไม่ถึงเลยว่าฝ่ายจัดงานประมูลจะตัดสินใจเช่นนี้ เขากัดฟันแน่น สุดท้ายมองไปทางอวิ๋นโม่ก่อนเอ่ยอาฆาต “ไอ้เด็กน้อย รอดูได้เลย!” 

        พูดแล้วฉินเหอหลินก็หันกายจากไป ตั๋วธรรมดาเขาย่อมไม่สนใจ เป็นถึงว่าที่เจ้าบ้านตระกูลฉินจะให้ไปนั่งตำแหน่งที่นั่งธรรมดา มันเรื่องอะไรกัน

        บ่าวรับใช้รีบติดตามไปพลางกล่าวอย่างโกรธแค้น “นายน้อย พวกเราจะปล่อยไปเช่นนี้หรือ”

        ฉินเหอหลินแค่นเสียงเย็นชาคำหนึ่ง ในดวงตาปรากฏความคิดฆ่าฟัน “จะปล่อยไปเช่นนี้ได้อย่างไร เจ้าก็ได้ยินแล้วนี่ เจ้านั่นจะร่วมประมูลถุงเฉียนคุน หากมันประมูลได้จริงก็เท่ากับตัดชุดแต่งงานให้ข้า* หากประมูลไม่ได้ เงินของมันก็จะต้องส่งมอบให้ตระกูลข้าอย่างนอบน้อม เป็นเครื่องขอขมาที่ล่วงเกินข้า!” 

        บ่าวรับใช้เข้าใจในทันที เอ่ยต่ออย่างพินอบพิเทา “นายน้อยช่างปราดเปรื่อง!” 

        อวิ๋นโม่ไม่สนใจคำขู่ของฉินเหอหลินแม้แต่น้อย ตอนนี้เขามีพละกำลังถึงขอบเขตสูงสุดของผู้ฝึกยุทธ์ระดับเปลี่ยนชีพจร จะกลัวผู้เยาว์คนหนึ่งของตระกูลฉินทำไม จ่ายเงินเสร็จแล้วก็นำตั๋วจากไป

        หลังอวิ๋นโม่จากไปแล้ว พวกคนที่มาต่อแถวซื้อตั๋วยังคงประหลาดใจอย่างไม่ระงับ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นคนกล้าล่วงเกินตระกูลฉิน ทั้งยังเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับเสริมกำลังไร้ที่มา ความแข็งแกร่งถึงกับเหนือกว่ายอดฝีมืออันดับหนึ่งของผู้เยาว์ตระกูลฉิน ทำให้ผู้คนต้องอัศจรรย์ใจแล้ว แต่ว่าคนมากมายยังคงคาดเดาว่าอวิ๋นโม่จะต้องตายแน่นอน ผู้ไร้คนหนุนหลังคนหนึ่งกลับกล้าล่วงเกินตระกูลฉิน แล้วยังจะไม่ตายได้อีกหรือ

        จุดนี้ย่อมไม่มีใครสงสัย หากอวิ๋นโม่มีเบื้องหลังสูงส่ง คงไม่จำเป็นต้องปิดบังตัวตนด้วยการสวมหน้ากากแล้ว

        “พวกเจ้าว่าเป็นไปได้ไหมที่คนผู้นั้นจะเป็นคนของตระกูลอวิ๋นหรือตระกูลซาง หากเขาเป็นลูกศิษย์ของสองตระกูลนี้ ไม่แน่ว่าตระกูลฉินอาจทำอะไรเขาไม่ได้” มีคนเอ่ยถาม

        “เป็นไปไม่ได้” หลายคนส่ายศีรษะ “หากเขาเป็นลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์ของตระกูลอวิ๋นหรือตระกูลซาง ยังจะต้องซ่อนฐานะทำไม ยิ่งไปกว่านั้นลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์ของสามตระกูลใหญ่ในเมืองกวนซานเจิ้นข้าล้วนรู้จักดี แต่ไม่เคยได้ยินว่าใครแข็งแกร่งมากเช่นนี้ ลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์ของอีกสองตระกูลอาจมีความแข็งแกร่งกว่านายน้อยฉิน แต่ก็มีข้อจำกัด ไม่มีทางเอาชนะนายน้อยฉินได้อย่างง่ายดาย”

        ผู้คนต่างถอนหายใจก่อนเอ่ยข้อสรุป

          “ผู้ดูแลหลู่ เจ้าเด็กนั่นเพียงพูดไปเรื่อยเปื่อย ทำไมท่านจึงเชื่อถือเขา เรื่องมาถึงขั้นนี้ กลายเป็นว่าพวกเราล่วงเกินนายน้อยฉินเสียแล้ว เขาเป็นถึงว่าที่เจ้าบ้านตระกูลฉินเชียวนะขอรับ!” เด็กขายตั๋วพึมพำ เขายังคงเห็นว่าไม่สมควรขายตั๋วให้อวิ๋นโม่

        ผู้ดูแลหลู่มองเด็กขายตั๋วด้วยความผิดหวังอยู่บ้าง มิน่าเล่าเจ้าเด็กนี่จึงเป็นได้เพียงคนขายตั๋วผู้หนึ่งเท่านั้น

        “คนจัดงานประมูลอย่างพวกเรา ถึงจะเป็นเพียงสาขาย่อยแต่อำนาจก็ไม่ด้อยไปกว่าตระกูลฉิน อีกทั้งหากถึงคราวคับขันก็สามารถดึงสำนักงานใหญ่ช่วยออกหน้า พวกตระกูลฉินจะนับเป็นอะไรได้ บางคราเมื่อเผชิญหน้ากับสามตระกูลใหญ่ในเมืองกวนซานเจิ้น พวกเราอาจถอยให้สักก้าว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราหวาดกลัวพวกเขา” ยากนักที่ผู้ดูแลหลู่จะพูดประโยคตักเตือนยืดยาว “สายตาเด็กน้อยอย่างเจ้ายังคับแคบเกินไป เด็กหนุ่มสวมหน้ากากมิได้เรียบง่ายดั่งที่เจ้าเห็น”

        เด็กขายตั๋วตะลึงจนพูดไม่ออก “ผู้ดูแลหลู่ ท่านหมายความว่าเด็กหนุ่มนั่นมีความสามารถร่วมประมูลถุงเฉียนคุนหรือ แต่ว่าจะเป็นไปได้อย่างไร เขาเป็นแค่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเสริมกำลังคนหนึ่งเท่านั้น!”

        คราวนี้ผู้ดูแลหลู่ไม่ได้อธิบายเพียงมองไปยังเงาหลังที่จากไปของอวิ๋นโม่ ผุดรอยยิ้มจาง จากนั้นหันกายจากไป

        ………………………………………

        *ตัดชุดแต่งงานให้ผู้อื่น 为他人作嫁衣裳 Wèi tārén zuò jià yīshang หมายถึง ลงแรงทำบางสิ่งบางอย่างแต่ผลประโยชน์ที่ควรได้กลับไปตกอยู่ในมือผู้อื่น

กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ

กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ

Status: Ongoing
ถูกศิษย์รักทรยศ! แพทย์โอสถอันดับหนึ่งในใต้หล้าไม่คาดคิดเลยว่าจะถูกหักหลัง! ทั้งเคี่ยวเข็ญ ผลักดัน คอยหลอมสมุนไพรเพิ่มพูนกำลังตลอดหลายร้อยปี บัดนี้.. เด็กไร้ค่านั่นได้ใช้นาม “จักรพรรดิลั่วเทียน” ผู้ยิ่งใหญ่ แต่เขากลับกลายเป็นเพียงเสี้ยนหนามที่ต้องถูกกำจัด! ฉับพลัน การจุติครั้งใหม่จึงอุบัติขึ้น.. ในร่าง “อวิ๋นโม่” จุดด่างพร้อยของตระกูลที่ถูกทารุณอย่างโหดร้ายจนตายอย่างไร้ทางสู้ แม้เป็นร่างใหม่ ภพชาติเปลี่ยนไป แต่ไฟบรรลัยกัลป์แห่งความเจ็บแค้นนั้นยังคุกรุ่น ครานี้หรือ.. จักยอมให้เหยียบย่ำ ทั้งโอสถตำรา.. คาถา.. สมุนไพร.. หม้อหลอมยา.. และพละกำลัง จากคนธรรมดาจึงทะยานขึ้นเหนือใต้หล้า.. ในฐานะปรมาจารย์เทพโอสถ! “ข้าทุ่มเทชีวิตจิตใจ ดูแลดั่งลูกในไส้ เจ้ากลับสังหารอาจารย์ จักทุ่มเทฝึกฝนสุดกำลัง ให้ไอ้ศิษย์ทรยศนั่นต้องจ่ายค่าตอบแทน”

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท