กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ – ตอนที่ 55 เสน่ห์แมงป่องพิษ

กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ

        ฉินกวงเซิ่งกับแมงป่องพิษเป็นคนระดับใด ทั้งสองต่างก็เป็นยอดฝีมือระดับก่อจิต แข็งแกร่งเหนือผู้ใดในที่นี้ แมงป่องพิษคือสตรีทรงเสน่ห์ผู้น่ากลัว ทั้งยังเป็นยอดฝีมือระดับก่อจิตชั้นกลาง ความสามารถน่าเกรงขาม ต่อให้เป็นผู้นำของสามตระกูลใหญ่ในเมืองกวนซานก็ยังไม่กล้าพูดว่าสามารถสังหารนางได้!

        แต่เด็กหนุ่มตรงหน้าซึ่งฟังน้ำเสียงก็รู้ว่ายังเยาว์วัย กลับเรียกผู้เข้มแข็งทั้งสองมารับความตาย เขาคิดว่าชีวิตตนเองน่าเบื่อเกินไปหรือ

        แม้อวิ๋นโม่จะดัดเสียงให้โตขึ้น แต่ฟังแล้วก็ไม่เกินยี่สิบกว่าปีเท่านั้น ทุกคนต่างคิดว่าเด็กหนุ่มจะสู้ผู้แข็งแกร่งระดับก่อจิตทั้งสองได้อย่างไร

        “ฮ่าๆๆ รนหาที่ตาย!” อวิ๋นหู่ที่กำลังจะจากไปพลันหยุดเท้า มองอวิ๋นโม่พลางหัวเราะเสียงเย็น ดวงตาส่องประกายอาฆาต เมื่อครู่คนที่ตัดแขนเขาก็คือเด็กหนุ่มผู้นี้ เขาย่อมเกลียดชังมันเป็นที่สุด

        ฉินกวงเซิ่งดวงตาเป็นประกาย มองอวิ๋นโม่ด้วยความสนใจ “เด็กบ้านไหนกัน ยังไม่หย่านมกระมัง อาศัยเจ้าก็คิดจะฆ่าข้า?”

        แมงป่องพิษคลี่ยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ เอ่ยด้วยท่าทางงดงาม “ทำไมน้องชายจึงดุนัก ข้ากลัวจังเลย”

        ทุกคนต่างรู้สึกว่าเสียงของแมงป่องพิษนุ่มนวลชวนฟัง รู้สึกคันในหัวใจเหมือนถูกแมวข่วน มีแต่พวกโจรที่รู้สึกหนาวเยือกจนตัวสั่น แววตาปรากฏความหวาดกลัว แมงป่องพิษผู้นี้ดูไร้อันตราย แต่ที่จริงแล้วเป็นดอกไม้พิษดอกหนึ่ง

        “น้องชาย อย่าใช้อารมณ์จัดการปัญหา!” อวิ๋นหลานเหอและอวิ๋นต้ามั่วยังคงเอ่ยด้วยเสียงกระซิบ “พวกเราจะลงมือรั้งสองคนนั้นไว้ เจ้ารีบหนีไป!”

        อวิ๋นโม่หันกลับไปโบกมือเอ่ย “ไม่ต้องกลัว พวกเขาไม่ครณามือข้า”

        “ฮิๆ น้องชายช่างมั่นใจในตัวเอง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ให้พี่สาวเล่นกับเจ้าเถอะ” แมงป่องพิษเผยยิ้มมุมปาก เท้าขาวสะอาดเพียงแตะพื้นแผ่วเบา ทั้งร่างก็ลอยออกไปราวกับผีเสื้อ

        “สตรีอย่างเจ้ารอดูอยู่ด้านข้างเถอะ” อวิ๋นโม่เอ่ยขณะดึงง้าวคืนเหมันต์ขึ้นมา กวาดใส่แมงป่องพิษ

        ฟิ้ว! 

        คืนเหมันต์ทอประกายหนาวเย็นสายหนึ่ง โผเข้าใส่แมงป่องพิษด้วยความเร็วที่คาดไม่ถึง

        แมงป่องพิษที่ลอยอยู่กลางอากาศส่งเสียงหัวเราะน่าประทับใจ ร่างกายอ่อนนุ่มประดุจงูบิดโค้งด้วยท่าทางแปลกประหลาด หลบการโจมตีของคืนเหมันต์ได้สำเร็จ

        อวิ๋นหลานเหอและอวิ๋นต้ามั่วเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็ผงกศีรษะให้แก่กัน ทั้งสองบุกเข้าไปพร้อมๆ กัน คนหนึ่งรับมือแมงป่องพิษ อีกคนบุกเข้าหาฉินกวงเซิ่ง

        “น้องชาย เจ้ารีบหนีไป!” อวิ๋นต้ามั่วตะโกนเสียงดัง

        “ฆ่า!” ฝูงโจรและจอมยุทธ์ตระกูลฉินต่างเริ่มเคลื่อนไหว พุ่งเข้าไปสังหารคนตระกูลอวิ๋น

        สายตาของอวิ๋นโม่เย็นเยียบ เขากำหมัดร่ายรำหมัดทลายภูผา พริบตานั้นพละกำลังอันแข็งแกร่งจนน่าพรั่นพรึงก็กลายเป็นลำแสงมากมายพุ่งออกจากร่างตรงเข้าสู่กำปั้น หมัดของอวิ๋นโม่ส่องแสงแสบตาราวกับดวงอาทิตย์ย่อส่วน ขณะเดียวกันพลังที่น่าหวาดกลัวก็ระเบิดออกมา ทำให้ผู้คนใจสั่นสะท้าน

        พริบตานั้น แต่ละคนต่างหยุดเท้าแล้วหันไปดูอวิ๋นโม่ แม้แต่แมงป่องพิษที่อยู่ระดับก่อจิตชั้นกลางก็ยังหนังตากระตุก รีบร้อนถอยไปด้านหลัง

        “เป็นเจ้า! หวังลั่วเหิงถูกเจ้าฆ่า” ฉินกวงเซิ่งตกใจหน้าซีดเผือด พลังที่อวิ๋นโม่ปลดปล่อยออกมายังแข็งแกร่งกว่าเขา หลังจากเห็นหมัดที่เปล่งแสงได้ของอวิ๋นโม่ เขาจึงเข้าใจว่ายอดฝีมือระดับก่อจิตชั้นกลางตระกูลหวังถูกอวิ๋นโม่สังหาร! ข้อสรุปที่ได้ทำให้เขาตื่นตระหนก

        “หนี!” ตอนนี้ฉินกวงเซิ่งมีเพียงความคิดเดียว ขนาดยอดฝีมือระดับก่อจิตชั้นกลางตระกูลหวังยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอวิ๋นโม่ แล้วเขาจะรับหมัดนี้ได้อย่างไร

        เปรี้ยง! 

        อวิ๋นโม่ส่งหมัดออกไป ลำแสงดุจดั่งดาวตกทะลุผ่านร่างฉินกวงเซิ่งอย่างง่ายดาย เสียงผลัวะดังสนั่น

        “นี่…” อวิ๋นหู่ที่อยู่ห่างออกไปส่งเสียงร้องด้วยความหวาดกลัว เขาหลบหนีสุดชีวิต แม้แต่หลานชายของตนก็ไม่สนใจแล้ว พลังหมัดสายนั้นทะลุร่างฉินกวงเซิ่งแล้วยังคงพุ่งต่อไปทางอวิ๋นหู่และอวิ๋นเลี่ย

        “ท่านปู่ ช่วยข้าด้วย!” อวิ๋นเลี่ยหวาดกลัวสุดขีด พลังหมัดที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้ มันไม่อาจตอบโต้ได้เลย!

        ตูม! 

        อวิ๋นเลี่ยไม่อาจหนีพ้น ถูกหมัดนั้นโจมตี ร่างครึ่งหนึ่งกลายเป็นก้อนเนื้อแหลกเละอย่างไม่ต้องสงสัย จากนั้นล้มตึงลงไป

        คราวนี้ทั่วทั้งสนามเงียบสนิท ทุกคนพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่เห็น พวกเขาตกใจมาก เมื่อครู่ที่อวิ๋นโม่เรียกแมงป่องพิษและฉินกวงเซิ่งมารับความตาย คนมากมายล้วนเย้ยหยัน คิดไม่ถึงว่าพริบตาเดียวเขากลับฆ่าฉินกวงเซิ่งตายแล้ว ทั้งยังใช้เพียงกระบวนท่าเดียว! 

        “เป็นเขา!” บางคนเอ่ยเสียงสั่น “ฉินกวงเซิ่งพูดไม่ผิด หวังลั่วเหิงถูกคนผู้นี้สังหารด้วยวิชาหมัดนี้!”

        ทรวงอกของฉินกวงเซิ่งเกิดรูขนาดใหญ่เช่นเดียวกับหวังลั่วเหิงที่ตายไป

        ยามนี้พวกโจรและจอมยุทธ์ตระกูลฉินต่างก็ตัวแข็งทื่ออยู่บนพื้นอย่างทำอะไรไม่ถูก ครู่ต่อมาสายตาของพวกเขาก็หันไปทางแมงป่องพิษ ตอนนี้มีแต่แมงป่องพิษที่เป็นความหวังในการต่อสู้กับอวิ๋นโม่

        “ตระกูลฉินหลอกข้า!” แมงป่องพิษตะโกนเสียงดัง สายตาทั้งโกรธเกรี้ยวและหวาดกลัว บนใบหน้าไม่เหลือเสน่ห์อย่างเมื่อครู่อีก

        ฟิ้ว! แมงป่องพิษกระโดดถอยหลังไป คิดจะหนีไปจากที่นี่

        “คิดหนี?” อวิ๋นโม่เอ่ยเสียงเย็นชา ร่ายรำหมัดทลายภูผาอีกครั้ง ขณะที่ใต้ฝ่าเท้าปรากฏแสง คนก็เหมือนกับกระแสไฟฟ้า พุ่งออกไปดักหน้าแมงป่องพิษ ท่าเท้าของหมัดทลายภูผา แม้จะแสดงอานุภาพสูงสุดได้ก็ต่อเมื่อใช้หลบการโจมตีของศัตรู แต่ในสถานที่ไกลปืนเที่ยงแบบนี้ ท่าเท้านี้ก็ราวกับใช้เวทย์มนตร์แล้ว

        แมงป่งพิษใบหน้าถอดสี นางเสียความสุขุม ณ ตอนแรกไปแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงท่าทางรีบร้อนหลบให้ห่างจากอวิ๋นโม่

        “สหาย ระหว่างพวกเราไม่มีความแค้นต่อกัน ไยต้องต่อสู้กันจนถึงขั้นเป็นตาย” แมงป่องพิษเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง

        “ไม่มีความแค้น? เมื่อครู่เจ้าคิดจะฆ่าคนตระกูลอวิ๋นทั้งหมดไม่ใช่หรือ” อวิ๋นโม่หัวเราะเสียงเย็น

        พอสัมผัสได้ถึงจิตสังหารในดวงตาของอวิ๋นโม่ แมงป่องพิษก็ใจสั่น “ใต้เท้า ข้าไม่รู้ว่าตระกูลอวิ๋นมีท่านคอยคุ้มครอง หากข้ารู้ จะต้องไม่ถูกตระกูลฉินหลอก ไม่ตกลงร่วมมือกับมันมาทำร้ายตระกูลอวิ๋น” 

        พูดจบแล้วสีหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา บุกเข้าไปในหมู่คนตระกูลฉิน เริ่มฆ่าฟันยกใหญ่

        “อ๊าก! แมงป่องพิษ! เจ้าทรยศพวกเรา!” 

        “หึ พวกเจ้าหลอกข้า ข้าก็แค่แก้แค้นนิดหน่อยเท่านั้น” แมงป่องพิษน้ำเสียงเย็นชา ใบหน้างดงามมีแต่ความคิดฆ่าฟัน

        มีผู้แข็งแกร่งที่น่ากลัวขนาดนี้ติดตามตระกูลอวิ๋นมาด้วย ตระกูลฉินจะไม่รู้ได้อย่างไร ทำให้นางตกอยู่ในอันตรายแบบนี้ แมงป่องพิษย่อมเกิดโทสะ จึงเปิดฉากฆ่าฟันพันธมิตรเก่าโดยไม่ออมมือ

        คนตระกูลฉินต่างแตกตื่น พันธมิตรเมื่อครู่เพียงพริบตาก็หันมีดเข้าใส่ ทำให้พวกมันระส่ำระสาย

        “หนี! รีบหนีเร็ว!”

        “ทุกคนจงฟังคำสั่งข้า สังหารคนตระกูลฉินให้หมด!”

        แมงป่องพิษจัดการด้วยตนเอง ทั้งยังกระตุ้นฝูงโจรทั้งหมดให้ลงมือ เพียงไม่นานจอมยุทธ์ตระกูลฉินทั้งหมดก็ถูกสังหาร ไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียว

        “ใต้เท้า ท่านดูสิ เพื่อเป็นการขออภัย ข้าจึงสังหารตัวชั่วช้าเหล่านี้จนหมด หากใต้เท้ายินยอมปล่อยข้าไป ข้าจะนำทรัพย์สินเงินทองจำนวนมากมาชดใช้” ใบหน้าแมงป่องพิษเปรอะเปื้อนเลือด มองไม่เห็นความงดงามอีก เห็นเพียงความร้ายกาจของสตรีผู้นี้เท่านั้น

        “สหายน้อย ไม่อาจปล่อยแมงป่องพิษไป!” อวิ๋นหลานเหอได้สติขึ้นมาจากความตื่นตกใจ เขาเดินช้าๆ มาหยุดข้างกายอวิ๋นโม่ เอ่ยเสียงต่ำว่า “ค่ายโจรกลุ่มนี้เหี้ยมโหด ทิ้งไว้จะเป็นเภทภัยในภายหลัง หากไม่กำจัดก็อาจหลบหนีไป สมควรจัดการให้สิ้นซากดีกว่า ถือเป็นการขจัดภัยให้ปวงประชา!”

        อวิ๋นโม่ไม่ได้รับปาก เขาไม่สนใจเรื่องช่วยเหลือชาวบ้าน แต่ก็ยังคิดจะฆ่าแมงป่องพิษ เพราะหญิงคนนี้เคยคิดฆ่าล้างตระกูลอวิ๋น เคยคิดฆ่าเขา กับคนที่คิดจะฆ่าตน อวิ๋นโม่ไม่เคยยั้งมือไว้ไมตรี

        “ใต้~เท้า~” แมงป่องพิษหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา เช็ดคราบเลือดบนใบหน้า เผยเสน่ห์เย้ายวนน่าหลงใหล คราวนี้นางแสดงท่าทีเอียงอาย ประกาศอย่างขัดเขินด้วยน้ำเสียงที่ใครได้ยินก็ต้องอ่อนระทวย “หากใต้เท้ายินดี ข้าก็ยินยอมพลีกายปรนนิบัติท่าน”

        นางมีเสน่ห์ล้ำเลิศ ใครเห็นก็ต้องใจหวิว คิดพุ่งเข้าไปในอ้อมอกทันที

        ………………………………………

กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ

กำเนิดใหม่ : ปรมาจารย์เทพโอสถ

Status: Ongoing
ถูกศิษย์รักทรยศ! แพทย์โอสถอันดับหนึ่งในใต้หล้าไม่คาดคิดเลยว่าจะถูกหักหลัง! ทั้งเคี่ยวเข็ญ ผลักดัน คอยหลอมสมุนไพรเพิ่มพูนกำลังตลอดหลายร้อยปี บัดนี้.. เด็กไร้ค่านั่นได้ใช้นาม “จักรพรรดิลั่วเทียน” ผู้ยิ่งใหญ่ แต่เขากลับกลายเป็นเพียงเสี้ยนหนามที่ต้องถูกกำจัด! ฉับพลัน การจุติครั้งใหม่จึงอุบัติขึ้น.. ในร่าง “อวิ๋นโม่” จุดด่างพร้อยของตระกูลที่ถูกทารุณอย่างโหดร้ายจนตายอย่างไร้ทางสู้ แม้เป็นร่างใหม่ ภพชาติเปลี่ยนไป แต่ไฟบรรลัยกัลป์แห่งความเจ็บแค้นนั้นยังคุกรุ่น ครานี้หรือ.. จักยอมให้เหยียบย่ำ ทั้งโอสถตำรา.. คาถา.. สมุนไพร.. หม้อหลอมยา.. และพละกำลัง จากคนธรรมดาจึงทะยานขึ้นเหนือใต้หล้า.. ในฐานะปรมาจารย์เทพโอสถ! “ข้าทุ่มเทชีวิตจิตใจ ดูแลดั่งลูกในไส้ เจ้ากลับสังหารอาจารย์ จักทุ่มเทฝึกฝนสุดกำลัง ให้ไอ้ศิษย์ทรยศนั่นต้องจ่ายค่าตอบแทน”

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท