To-ra Story : คณะท่องโลกของนายโทระ – ตอนที่ 8 อัสนีโลหิต

To-ra Story : คณะท่องโลกของนายโทระ

“แต่คุณโทระจัดการมันไปแล้วนี่คะ!? “

 

“ใจเย็นๆ ลองสังเกตดูดีๆ สิ เจ้านี่มันคนละสีกับตัวที่แล้วนะ บางที่อาจจะเป็นพี่หรือไม่ก็น้องของมันก็ได้”

 

“แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะคะ!? ถ้าเจ้านี่เป็นบอสพื้นที่จริงๆ เลเวลของมันไม่มีทางต่ำกว่า 100 เลยนะคะ!? แบบนี้พวกเราตายกันหมดแน่เลยค่ะ!!”

 

“ตั้งสติเอาไว้ก่อนโซโซ ยิ่งเป็นเวลาคับขันแบบนี้เราต้องยิ่งเยือกเย็นนะ รู้ไหม? …บางทีที่ตอนนี้มันยังไม่เริ่มโจมตีเราเข้ามา มันคงยังระแวงความแข็งแกร่งของพวกเราอยู่…เราต้องใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์”

 

โซโซสูดหายใจเข้าลึกๆ ทีนึง ก่อนที่จะพูดต่อมาด้วยท่าทีที่สงบลงกว่าเดิม

 

“คุณโทระมีแผนอะไรไหมคะ? “

 

ผมยังคงจ้องไปที่ดวงตาของสัตว์ร้ายไม่กะพริบ ในขณะที่สมองหมุนเร็วจี๋เพื่อหาทางแก้สถานการณ์ในตอนนี้

 

“ตอนนี้คงทำได้แค่หนี พวกเราในตอนนี้คงสู้เจ้านี่แบบซึ่งๆ หน้าไม่ไหวหรอก…เอาล่ะ ฟังดีๆนะ รับการ์ดพวกนี้ไป แล้วพอผมให้สัญญาณ โซโซต้องหันหลังแล้วรีบหนีให้ไว้ที่สุด อ่อ! อย่าลืมพาเจ้าแมรี่ไปด้วยล่ะ ผมจะส่งเจ้าซิกนัมตามไปคุ้มกันให้อีกตัว ส่วนเจ้าบอสนี่ผมจะล่อมันเอาไว้ก่อน คงจะถ่วงเวลาได้สักพัก…พอกลับไปถึงเมืองแล้วให้ตามหาโรงแรมที่ชื่อว่าหมูป่า เอาไว้พวกเราไปเจอกันที่นั่นนะ”

 

ผมถอดการ์ดพื้นที่ราชาหมาป่าโทเดน กับการ์ดราชาหมาป่าโทเดนออก แล้วส่งให้กับโซโซ โดยที่ตาของผมยังไม่ได้ละไปจากสัตว์ร้ายเลยแม้แต่น้อย

 

“ตะ แต่ว่า ถ้าทำแบบ…”

 

“นี่ไม่ใช่เวลามาขัดคำสั่งนะ…ทำตามที่ผมบอก เข้าใจนะ!”

 

เสียงของผมเข้มงวดอย่างมาก บางทีเธออาจจะตกใจ…แต่คงต้องเอาไว้ไปขอโทษทีหลังล่ะนะ

 

“ขะ เข้าใจแล้วค่ะ”

 

“ดีมาก เอาล่ะ เตรียมพร้อมนะ 3…2…1…ไป!!”

 

สิ้นเสียง ผมหยิบดาบขึ้นมาเตรียมพร้อมก่อนจะพุ่งเข้าหาบอสหมาป่าทันที ผมขว้างโล่กลมจากมือซ้ายเข้าใส่บอสโดยที่ไม่ให้มัทันตั้งตัว

 

ปัง!!

 

เสียงโล่กระแทกเข้ากับหัวของมันดังขึ้นมา แต่ดูเหมือนว่าบอสจะไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่น้อย

 

บอสเริ่มเคลื่อนไหวแล้วเช่นกัน มันพุ่งสวนเข้ามาหาผม และเมื่อเข้าระยะ มันก็ตวัดกรงเล็บของมันเข้าใส่ผมทันที

 

ผมที่เตรียมตัวไว้อยู่แล้ว ก็สามารถเรียกโล่ฐานออกมากันกรงเล็บของมันไว้ได้ทันเวลา แต่ก็ยังไม่วายโดนผลักกระเด็นออกไปหลายเมตรจากค่าพละกำลังที่แตกต่างกันอย่างมากของบอสและตัวเอง

 

ผมไม่มีเวลามาดูความเสียหายของตัวโล่ ผมรีบเก็บโล่เข้าช่องเก็บของก่อนที่ในมือจะปรากฏคันธนูและลูกธนูเลเวล 800 ขึ้นมาแทบจะในทันที ผมง้างสายธนูและยิงออกไปอย่างรวดเร็ว ลูกธนูพุ่งเข้าไปปักอยู่ที่ดวงตาข้างหนึ่งของมันอย่างแม่นยำ จนเลือดสาดกระจาย

 

ก๊าซ!!!!!

 

เจ้าบอสกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่มันจะพุ่งเข้ามาหาผมอีกครั้งด้วยท่าทางที่ดูเกรี้ยวกราดกว่าเดิมหลายเท่า ผมเก็บคันธนูและกลับมาถือโล่ฐานอีกครั้ง กรงเล็บของบอสตะบบเข้าใส่โล่จนส่งผมลอยกระเด็นออกไป แต่คราวนี้ยังไม่ทันที่ผมจะเปลี่ยนมาเป็นคันธนู อยู่ๆ ที่กลางอากาศรอบๆ ตัวของบอสก็ปรากฏลูกไฟขึ้นมาจำนวนหลายลูก

 

“เฮ้ย!! ใช้เวทได้งั้นเหรอ!?”

 

บอสไม่ปล่อยให้ผมมีเวลาคิดมากนัก มันยิงลูกไฟเข้าใส่ผม ก่อนที่จะพุ่งตัวตามเข้ามาทันที

 

ตูมๆๆๆ!!!

 

เสียงลูกบอลไฟปะทะเข้ากับโล่ฐานดังสนั่นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้โล่เริ่มกลายเป็นสีแดงด้วยความร้อน โชคดีที่ด้ามจับของโล่ฐานเป็นแบบยื่นออกมา ทำให้ความร้อนยังส่งมาไม่ถึงมือของผม

 

แต่ก่อนที่ผมจะทันคิดอะไร เจ้าบอสก็มาปรากฏตัวอยู่ที่ด้านขวาของผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กรงเล็กของมันเรืองแสงสีน้ำเงินแปลกๆ ก่อนที่กรงเล็บข้างนั้นของมันจะพุ่งตรงมาที่ส่วนหัวของผม

 

ไม่แม้แต่จะมีเวลาคิด ผมรีบโยกหัวหลบให้ไวที่สุดเท่าทีจะทำได้ กรงเล็บของมันเฉี่ยวผ่านจมูกของผมไป แต่ก็ยังมีส่วนปลายของเล็บที่แฉลบไปโดนหัวไหล่ด้านซ้ายของผมอยู่ดี

 

“อ๊าก!!”

 

ความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่สมองอย่างรวดเร็วจนผมเผลอกรีดร้องออกมา แต่ที่ไหล่ซ้ายของผมกลับไม่มีเลือดสาดกระเซ็นออกมาเลยแม้แต่หยดเดียว นั่นก็เป็นเพราะว่า ตอนนี้ไหล่ซ้ายของผมได้กลายเป็นน้ำแข็งไปแล้วนั่นเอง

 

แต่ดูเหมือนว่าการโจมตีของบอสจะยังไม่จบ หลังจากที่กรงเล็บของมันพลาดที่จะปลิดชีพศัตรูในครั้งแรก อยู่ๆ ที่กรงเล็บอีกข้างของมันก็เริ่มเรืองแสงสีแดงขึ้นมา

 

ผมไม่มีเวลาคิด จึงได้แต่ทำการแทงดาบออกไปที่ลำคอของมันเพื่อเป็นการตอบโต้

 

เจ้าบอสเองก็ดูเหมือนจะระแวงผมเป็นทุนเดิมอยู่บ้าง เนื่องจากผมสามารถสร้างบาดแผลให้กับมันได้ ดังนั้นมันจึงเอี้ยวตัวกระโดดหลบดาบของผมไปทางด้านหลัง พลาดโอกาสในการโจมตีครั้งที่สองไป

 

เมื่อมีโอกาสผมจึงรีบถอยหลังมาตั้งหลักเช่นกัน ผมกับบอสหมาป่าต่างก็จ้องมองเข้าไปในดวงตาของฝ่ายตรงข้าม

 

แฮกๆ

 

ผมหอบหายใจออกมา พลางชำเลืองไปที่หัวไหล่ของตัวเองที่บัดนี้มีเศษน้ำแข็งเกาะติดอยู่จำนวนมาก

 

(ไอบอสนี่มันอะไรกันแน่ ทำไมถึงใช้เวทมนตร์ได้? แถมยังเป็นธาตุไฟกับน้ำแข็งด้วย!?)

 

ตั้งแต่ที่ผมออกผจญภัยในโลกนี้มาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเจอมอนสเตอร์ประเภทสัตว์ป่าที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ และนอกจากนี้ยังเป็นธาตุด้านตรงกันข้ามอย่างไฟกับน้ำแข็งอีกด้วย

 

บอสหมาป่าไม่มีท่าทีว่าจะพุ่งเข้ามาโจมตีซ้ำอีก มันเริ่มเดินวนรอบๆ ตัวผมเป็นวงกลมเหมือนกับกำลังมองหาโอกาสเข้าโจมตี

 

ที่ดวงตาข้างหนึ่งของมันยังมีลูกธนูปักคาไว้อยู่พร้อมกับเลือดสีแดงเข้มที่ไหลออกมาเป็นสายย้อมขนสีขาวสะอาดของมันให้กลายเป็นสีแดง

 

(โชคดีที่ให้โซโซหนีไปก่อน…อย่างน้อยก็ยังรอดไปได้คนนึงล่ะนะ)

 

ในตอนแรกผมกะว่าจะถ่วงเวลามันไว้สักพักก่อนที่จะหาทางหนีออกไป แต่ถ้าดูจากความสามารถของบอสตัวนี้ ยังไงผมก็ไม่มีทางหนีรอดไปได้อย่างแน่นอน…และหากผมคิดจะหนีสุดท้ายก็คงไม่แคล้วพาตัวเองไปสู่ความตายที่ไวกว่าเดิมอยู่ดี ดังนั้นผมจึงทำได้เพียงแค่พยายามกัดฟันสู้ต่อไปให้ได้นานที่สุดเท่านั้น

 

วูบๆๆ

 

เสียงลูกไฟปรากฏขึ้นกลางอากาศรอบๆ ตัวของบอสหมาป่าดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

“นี่ล้อกันเล่นใช่ไหมเนี่ย!?”

 

ฟิ้วๆๆ ตูมๆๆๆ!

 

เจ้าบอสหมาป่าดูเหมือนจะฉลาดกว่าที่คิด…มันทำการระดมยิงเวทมนตร์ไฟเข้าใส่ผมจากระยะไกลอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเดินวนเป็นวงกลมรอบๆ ตัวของผม และไม่มีทีท่าว่าจะเข้ามาโจมตีระยะประชิดแต่อย่างใด

 

ผมทำได้เพียงเอาโล่ฐานเป็นที่กำบังต่อไปเรื่อยๆ เท่านั้น โล่กลายเป็นสีแดงมากขึ้นเรื่อยๆ ความร้อนเองก็เริ่มส่งผลต่อมือของผมมากขึ้นเช่นกัน

 

“ไอ้บ้าเอ๊ย!!!”

 

ผมตะโกนก่อนที่จะวิ่งเข้าใส่เจ้าบอสหมาป่า แต่มันก็ทำการกระโดดเพื่อทิ้งระยะห่างหนีออกไปทุกครั้ง และด้วยความต่างของค่าสถานะ ไม่มีทางเลยที่ผมจะสามารถไล่ตามบอสได้ทัน

 

โล่เริ่มแดงมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับแขนซ้ายของผมที่หมดแรงลงไปเรื่อยๆ เช่นกัน และในที่สุดผมก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป

 

ผมปล่อยมือจากโล่ฐานทิ้งไป ก่อนที่จะหยิบเอาโล่สนับที่เป็นโล่อันสุดท้ายออกมาสวมใส่แทน เจ้าบอสหมาป่าเองก็คงสังเกตเห็น แต่มันก็ยังเลือกที่จะไม่เข้ามาโจมตีตรงๆ แต่เลือกที่จะยิงเวทไฟถล่มใส่ผมจากระยะไกลเหมือนเดิมต่อไป

 

และเนื่องจากโล่สนับนั้นมีขนาดเล็ก ผมจึงไม่สามารถใช้มันรับลูกไฟของบอสได้ตรงๆ จึงทำได้แค่ปัดลูกไฟให้พ้นตัว หรือไม่ก็ต้องคอยวิ่งหลบไปหลบมาเท่านั้น

 

แต่ก็ยังถือว่าโชคดีที่เวทไฟของบอสไม่ได้มีความเร็วที่สูงมากนักทำให้ผมยังพอตามความเร็วของมันได้อยู่บ้าง

 

“นี่มานาของแกจะเยอะไปไหนเนี่ย!?” ตั้งแต่ที่บอสเริ่มใช้ลูกไฟยิงถล่มเข้ามา เวลาก็ผ่านไปเกือบ 20 นาทีเข้าไปแล้ว ตัวผมในตอนนี้รู้สึกเหนื่อยเป็นอย่างมาก แต่ดูเหมือนว่าบอสหมาป่าจะยังสามารถยิงเวทมนตร์ต่อไปได้เรื่อยๆ ไม่มีหมด

 

อุณหภูมิรอบๆ ตัวของผมเริ่มสูงขึ้น รวมถึงยังมีลูกไฟหลายลูกที่โดนปัดกระเด็นไปโดนต้นไม้ทำให้รอบตัวของผมต้นนี้เริ่มมีไฟลุกำหม้ขึ้นมาบ้างแล้ว…แต่ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันแน่ เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าตัวบอสเองก็เริ่มได้รับผลกระทบจากความร้อนไปด้วยเช่นกัน

 

บอสหยุดยิงเวทไฟใส่ทำให้ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจเล็กน้อย แต่เมื่อบอสเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง ความโล่งใจของผมก็หายวับไปทันที

 

ละอองแสงสีฟ้าจำนวนมากเริ่มรวมตัวกันอยู่รอบๆ ร่างของบอสราวกับมันกำลังรวบรวมพลังอยู่ และต่อมาละอองแสงเหล่านั้นก็เริ่มหมุนวนเป็นวงกลมรอบตัวบอสเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนดูคล้ายกับพายุหมุน และเมื่อผมเห็นดังนั้นมันก็ทำให้ผมอดรู้สึกขนลุกไม่ได้

 

“อะไรอีกวะเนี่ย!!!”

 

ผมรีบวิ่งไปที่โล่ฐานที่นอนกองอยู่ที่พื้นที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเท่าไหร่ทันที ถึงตัวโล่จะยังคงมีสีแดงอ่อนๆ แต่ผมไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมทนความเจ็บปวดเพื่อยกมันขึ้นมาและตั้งบังร่างกายเอาไว้

 

และถือว่าผมโชคดีที่เลือกที่จะทำอย่างนั้น เพราะว่าทันทีที่ผมตั้งโล่บังร่างกายเสร็จ ในจังหวะเดียวกันก็มีเสียงดัง เปรี๊ยะ! ก่อนที่จะมีคลื่นพลังเวทมนตร์สีฟ้าระเบิดออกมาจากตัวของบอสทันที

 

คลื่นพลังเวทสีฟ้าสาดกระจายออกไปโดยรอบโดยมีร่างของบอสเป็นศูนย์กลาง ทุกที่ที่คลื่นพลังเคลื่อนผ่านไปเบื้องหลังของมันก็กลายเป็นทุ่งน้ำแข็ง กองไฟที่อยู่รอบๆทั้งหมดก็ถูกคลื่นพลังน้ำแข็งนี้ดับไปจนหมดเช่นกัน

 

เมื่อคลื่นพลังเคลื่อนเข้ามาปะทะกับโล่ที่ผมตั้งบังตัวเองเอาไว้ก็มีเสียงระเบิดดังสนั่น

 

ทั้งๆ ที่มีโล่ขนาดใหญ่บังร่างกายเอาไว้ แต่ผมก็ยังรู้สึกราวกับโดนรถบรรทุกชนเข้าไปเต็มๆ ส่งผลให้ทั้งผมและโล่ฐานลอยกระเด็นออกไปไกลหลายสิบเมตร ก่อนที่จะกระแทกเข้ากับพื้นแล้วกลิ้งไปอีกหลายตลบ

 

อ๊าก!! เจ็บฉิบหายเลยโว้ย!!!

 

ผมผลักโล่ฐานที่ตอนนี้กลายเป็นก้อนน้ำแข็งออกไปให้พ้นตัว ในขณะที่ตัวเองยังนอนกองอยู่ที่พื้น

 

(เหมือนว่าขาขวาจะหักแฮะ…ยังดีแขนทั้งสองข้างไม่เป็นอะไร)

 

ผมพยุงตัวลุกขึ้นมานั่งก่อนที่จะสังเกตเห็นขาขวาของตัวเองที่กำลังบิดงอผิดรูปจนดูน่ากลัว

 

(ดาบเองก็ไม่รู้กระเด็นหายไปไหนแล้ว)

 

“…ไม่มีทางที่ไอบอสนี่จะเลเวลแค่ระดับ 100 แน่ๆ” ผมเงยหน้าขึ้นไปมองที่บอสหมาป่า ที่ในขณะนี้มันกำลังย่างสามขุมเดินเข้ามาหาผมอย่างช้าๆ สายตาสีแดงข้างที่เหลือของมันจับจ้องมาที่ผมแบบไม่กะพริบ

 

“เฮ้อ~~ พึ่งจะผ่านมา 2 วัน…นี่ต้องมาตายอีกรอบแล้วเหรอเนี่ย…โชคร้ายชะมัด…” ผมถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะพยายามเอาสองมือที่ยังดีอยู่ (?) ดันตัวเองจนถอยไปพิงกับต้นไม้ต้นหนึ่งได้สำเร็จ

 

โชคดีที่ผมคิดเผื่อสถานการณ์เลวร้ายที่สุดเอาไว้แล้ว จึงได้ทำการมอบการ์ดทั้งสองใบไว้กับโซโซตั้งแต่ก่อนหน้านี้ เพราะผมไม่แน่ใจว่าหากตัวเองเกิดพลาดท่าตายขึ้นมาระบบการ์ดจะถูกรีเซ็ตไปด้วยหรือไม่

 

(ถึงจะเสียดายดาบกับโล่ที่พึ่งซื้อมาก็เถอะ…แต่แบบนี้ก็ยังถือว่าพอรับได้อยู่…ล่ะมั้ง?)

 

เนื่องจากของทุกอย่างที่ไม่ได้อยู่ในช่องเก็บของในตอนที่ตายจะดรอปลงพื้นทั้งหมด ดังนั้นดาบกับโล่อีก 3 อันที่พึ่งจะซื้อมาที่ในตอนนี้ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ส่วนไหนของลานต่อสู้บ้าง…ยกเว้นโล่ฐานที่กลายเป็นก้อนน้ำแข็งนั่นล่ะนะ และยิ่งบวกกับสภาพร่างกายของผมในตอนนี้มันจึงไม่มีทางที่จะสามารถไปเก็บมันเข้าช่องเก็บของได้อย่างแน่นอน

 

เมื่อบอสหมาป่าเดินเข้ามาจนเหลือระยะห่างจากผมประมาณ 3 เมตร มันก็หยุดยืนอยู่กับที่ราวกับว่ามันยังคงระแวงว่าผมจะยังสามารถทำอะไรมันได้อีก

 

มันอ้าปากกว้าง ก่อนที่จะเริ่มมีละอองแสงเวทมนตร์สีแดงรวมตัวกันเข้าไปภายในปากของมัน

 

“นี่แกจะระแวงกันเกินไปไหมเนี่ย? แต่เอาเถอะแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน โดนเผาด้วยเวทมนตร์ทั้งเป็นก็ยังดีกว่าโดนมอนสเตอร์กินทั้งเป็นล่ะนะ”

 

ถึงจะไม่เคยมีประสบการณ์การโดนเผาทั้งเป็น แต่มันก็คงไม่ได้ทรมานนานเท่าการโดนกินทั้งเป็นใช่ไหมล่ะ??

 

(เฮ้อ~ รู้สึกเหมือนเดจาวูกับเมื่อ 6 ปีก่อนเลยแฮะ…แต่รอบนี้…คงไม่มีใครมาช่วยแล้วสินะ…)

 

ดูเหมือนว่าบอสหมาป่าจะรวบรวมพลังเสร็จเรียบร้อยแล้ว และมันก็ทำการพ่นไฟออกมาใส่ผมทันที

 

แต่แล้วในช่วงเวลาเป็นตาย อยู่ๆ ก็เหมือนกับเวลารอบๆ ตัวของผมเดินช้าลง

 

(นี่มัน…ช่วงเวลาก่อนตายงั้นเหรอ? แต่ครั้งที่แล้วก็ไม่เห็นเคยมีเหตุการณ์แบบนี้สักหน่อย)

 

ผมมองไปที่ภาพของลำแสงเพลิงที่กำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ อย่างช้าๆ เหมือนกับภาพสโลว์โมชั่น

 

(เป็นช่วงเวลาก่อนตายที่โหดร้ายจังนะ…)

 

ผมนึกในใจก่อนที่จะหลับตาลงอย่างยอมแพ้

 

ตูม!!!

 

มีเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น

 

…แปลกแฮะ ทำไมไม่รู้สึกร้อนเลยล่ะ…

 

ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้น ก่อนจะสังเกตเห็นเงาดำๆ ของคนๆหนึ่งที่กำลังยืนหันหลังให้ผมอยู่ ที่ด้านหน้าของคนๆนั้นปรากฏม่านพลังสีแดงอ่อนที่สามารถต้านลมหายใจเพลิงของบอสหมาป่าเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย

 

“…ฮานะ??”

 

ผมพูดออกไป เงาดำนั่นสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำเรียกของผม

 

แต่ก่อนที่ผมจะพูดอะไรต่อไป คนๆนั้นก็หันกลับมาเสียก่อน

 

“โฮ่~~ ใจกล้าดีนี่เจ้าแมวน้อย…นี่ฉันดูเหมือนฮานะจังขนาดนั้นเลยรึยังไงนะ หืม~~??”

 

“ยะ ยูกิ!!??”

 

ผมสีน้ำตาลแกมแดงของเธอถูกมัดเป็นทรงโพนี่เทลโบกสะบัดไปตามสายลมอย่างอิสระ ชุดเกราะเหล็กสีขาวขลิบทองแบบเต็มตัวที่เคยเห็นเป็นประจำ ที่แขนทั้งสองข้างของเธอสวมไว้ด้วยสนับมือขนาดใหญ่ทั้งสองข้าง ด้านหลังสะพายดาบสองมือรูปร่างสวยงามขนาดใหญ่เอาไว้…มันเป็นดาบเลเวล 900 ที่ถูกสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเธอคนนี้

 

ไม่ผิดแน่…คนที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของผมก็คือ คาโต้ ยูกินะ อดีตเพื่อนร่วมปาร์ตี้ของผมนั่นเอง!!

 

“เธอมาได้ยังไงเนี่ย!? เธอไม่ได้อยู่กับพวกอากิงั้นเหรอ?”

 

“อืม…เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลังเถอะ…แต่ว่า…สภาพดูไม่ได้เลยนะ ไปโดนใครรังแกมาเนี่ย??”

 

สายตาของเธอดูมืดลงเมื่อมองเห็นสภาพของผม

 

“ฮะๆ …ก็เจ้าตัวที่กำลังพ้นไฟใส่อยู่นี่ไง”

 

ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ดูเหมือนว่าวันนี้จะยังไม่ใช่วันตายของผมนะ

 

“โฮ่~ ไหน? ขอดูหน้าหน่อยสิว่าใครที่บังอาจกล้ามารังแกเจ้าแมวน้อยของฉัน!!”

 

ยูกิหันหน้ากลับไป ก่อนที่เธอจะสะบัดมือเบาๆ เปลวไฟที่เจ้าบอสหมาป่ากำลังพ่นใส่อย่างต่อเนื่องมาจนถึงเมื่อกี้ก็เหมือนถูกพลังที่มองไม่เห็นเป่าจนกระจายหายไป

 

ตูม!!!

 

คลื่นพลังบางอย่างแผ่ออกมาจากร่างของเธอ ผมทรงโพนี่เทลของเธอโบกสะบัดไปมาอย่างแรง

 

เปรี๊ยะๆ!

 

ปรากฏกระแสไฟฟ้าสีแดงลั้นเปรี๊ยะๆ อยู่รอบๆ ตัวเธอ

 

เอ่อ…ดูเหมือนว่าเธอกำลังโกรธอยู่แฮะ

 

ปกติยูกิจะไม่ค่อยได้อยู่ในร่างนี้บ่อยสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเธอแสดงร่างนี้ออกมา…นั่นก็หมายความว่าเธอกำลังโกรธสุดขีดอยู่นั่นเอง

 

อัสนีโลหิต คาโต้ ยูกินะ…นั่นคือฉายาของเธอ

 

เจ้าบอสหมาป่าดูตื่นตระหนกที่อยู่ดีๆ เวทมนตร์ลมหายใจเพลิงของมันก็ถูกทำลายลง มันจ้องมองไปที่ยูกิ ก่อนที่ขนของมันจะตั้งชูชันขึ้นมาอย่างตื่นกลัว และมันทำท่าทางว่ากำลังจะกระโดดหนีไป

 

แต่แน่นอนว่ายูกิไม่ยอมให้มันทำแบบนั้น

 

“คิดหนี? ฝันไปเถอะ…พันธนาการอัสนี!” สิ้นเสียงของเธอก็ปรากฏโซ่สายฟ้าหลายเส้นขึ้นมารัดพันรอบร่างของเจ้าบอสหมาป่าเอาไว้อย่างแน่นหนาจนมันไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่น้อย

 

“เจ้าหมาน้อย…นี่แกกล้าบังอาจมารังแกเจ้าแมวน้อยของฉันงั้นเหรอ…? นี่แกไม่รู้รึไงว่าคนที่จะรังแกเจ้าแมวน้อยได้น่ะมีแค่ฉันคนเดียว?”

 

เอ่อ…ดูเหมือนเธอจะสติหลุดไปแล้วแฮะ ว่าแต่ทำไมคำพูดมันฟังดูแปลกๆอย่างนั้นล่ะ??

 

“เอาเถอะ ในเมื่อรนหาที่เอง ฉันก็จะสงเคราะห์ให้…ทัณฑ์อัสนีขั้น 3”

 

เปรี๊ยะๆๆ!!! ทันใดนั้นที่กลางอากาศเหนือขึ้นไปจากเจ้าบอสหมาป่าที่กำลังโดนโซ่สายฟ้ารัดพันเอาไว้ก็ปรากฏดาบที่ถูกสร้างมาจากสายฟ้าสีแดงขึ้นมาทั้งหมด 3 เล่ม

 

“หายไปซะ…” สิ้นเสียงของเธอ ดาบสายฟ้าทั้งสามเล่มก็พุ่งตกลงมาเสียบเข้าใส่ร่างของบอสหมาป่าทันที

 

เปรี้ยง!! เปรี้ยง!! เปรี้ยง!!

 

ยูกิหันหลังกลับมาโดยไม่ต้องรอดูผลลัพธ์ ออร่าสายฟ้าที่เคยอยู่รอบๆ ตัวเธอก็มลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

เจ้าบอสหมาป่าไม่มีแม้แต่โอกาสจะกรีดร้องด้วยซ้ำ

 

(ขอให้จากไปอย่างสงบนะคุณบอสหมาป่า…ว่าแต่โดนท่านยูกิจัดหนักจัดเต็มถึงขนาดปล่อยท่าไม้ตายใส่นี่จะเรียกว่าโชคดีได้ไหมนะ??)

 

ผมได้แต่สวดภาวนาให้บอสหมาป่าในใจ

 

แต่ทันใดนั้นก็ปรากฏหน้าจอแจ้งเตือนขึ้นมาที่ด้านหน้าของผม

 

ปาร์ตี้ได้กำจัดจักรพรรดินีหมาป่าโทเดน (ระดับตำนาน) เลเวล 360 สำเร็จ

 

ได้รับค่าประสบการณ์ 57,600 แต้ม

 

ได้รับ เนื้อจักรพรรดินีหมาป่าโทเดน (ระดับตำนาน) 24 ชิ้น

 

ได้รับ กะโหลกศีรษะจักรพรรดินีหมาป่าโทเดน (ระดับตำนาน) 1 ชิ้น

 

ได้รับ เศษโครงกระดูกจักรพรรดินีหมาป่าโทเดน (ระดับตำนาน) 12 ชิ้น

 

ได้รับ เขี้ยวจักรพรรดินีหมาป่าโทเดน (ระดับตำนาน) 10 ชิ้น

 

ได้รับ หนังจักรพรรดินีหมาป่าโทเดน (ระดับตำนาน) 8 ชิ้น

 

ได้รับ การ์ดจักรพรรดินีหมาป่าโทเดน 1 ใบ

 

(ได้การ์ดอีกแล้ว หรือว่ามอนสเตอร์ระดับบอสจะมีโอกาสได้การ์ดง่ายกว่ากันนะ? เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลังแล้วกัน…)

 

“ฮะๆ ครั้งนี้ได้เธอช่วยเอาไว้จริงๆ ไม่งั้นฉันได้ตายอีกรอบแน่ๆ ขอบใจมากนะยูกิ”

 

ผมพูดกับยูกิที่เดินกลับมา ก่อนที่เธอจะนั่งลงที่ด้านข้างของผม

 

“หืม~? ครั้งนี้โดนเล่นงานซะสภาพดูไม่ได้เลยนี่นะ ว่าแต่ไปทำอีท่าไหนถึงโดนเจ้านี่หมายหัวเอาได้ล่ะ?”

 

“ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย อยู่ดีๆ เจ้านี่ก็โผล่มาเอง…แล้วก็เป็นไปอย่างที่เห็นนี่แหละ”

 

“ว่าแต่เจ้าหมาน้อยนั่นเลเวลเท่าไหร่กันล่ะ?”

 

“360 น่ะสิ เอ๊ะ? เธอเป็นคนจัดการมันไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงไม่รู้ล่ะ? …ไม่สิ ก่อนอื่นเลยคือเธอมาที่นี่ได้ยังไงดีกว่า? ยูกิ”

 

“ก็ไม่มีอะไร มันเป็นสกิลอาชีพน่ะ ตัวฉันในตอนนี้น่ะเป็นร่างเวทมนตร์ที่เกิดจากพลังเวทที่ฉันผูกไว้กับนะ…พวกเราน่ะนะ ถ้าเกิดมีใครตกอยู่ในอันตรายฉันจะสามารถรับรู้และยังสามารถเคลื่อนย้ายไปหาด้วยร่างเวทมนตร์ได้ด้วย หรือจะพูดอีกอย่างก็คือร่างนี้ของฉันถือว่าเป็นเวทมนตร์ของนายก็ได้มั้ง? …ดังนั้นผลงานทั้งหมดจึงได้ตกเป็นของเจ้าแมวน้อยยังไงล่ะ”

 

“เห~ มีสกิลแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย?”

 

“…ถึงจะไม่ค่อยได้ใช้งานบ่อยเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่ามีประโยชน์อยู่ นายว่าจริงไหม?”

 

ยูกิพูดอธิบายให้ฟัง พร้อมกับเอานิ้วมือของเธอจิ้มๆ ลงไปที่ขาขวาของผมที่ยังหักงอผิดรูปอยู่ พร้อมกับยิ้มอย่างอารมณ์ดี

 

“โอ้ยๆ!! เจ็บๆๆ ทำอะไรของเธอเนี่ย!? …ก็ใช่อยู่ ถ้าไม่ได้สกิลของเธอ ป่านนี้ฉันคงตายไปแล้ว”

 

“ฮะๆ นายตอนที่ตอบโต้ไม่ได้นี่มันน่ารักซะจริงๆ น่ารักซะจนอยากจะแกล้งให้เยอะๆ เลย”

 

เธอพูดจบก็เอานิ้วจิ้มไปที่ขาของผมอีกครั้ง

 

“โอ้ยๆๆ หยุดเลยนะ มันเจ็บจริงๆ นะเฟ้ย!!”

 

“เอาน่าๆ ยังมีแรงมาขึ้นเสียงแบบนี้ก็คงยังไม่ตายง่ายๆหรอก จริงไหม? ฮะๆ”

 

“แต่ว่านะเจ้าแมวน้อย สกิลนี้น่ะมีช่วงคูลดาวน์ค่อนข้างนาน ดังนั้นก็อย่าไปทำอะไรเสี่ยงๆไม่เข้าเรื่องบ่อยๆล่ะ บางทีฉันอาจจะมาช่วยแบบครั้งนี้ไม่ได้นะ…นายเข้าใจใช่ไหม?”

 

อยู่ๆ ยูกิก็พูดด้วยน้ำเสียงแสดงความเป็นห่วง ก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมาสบตากับผม

 

อึก!! ขี้โกงโว้ย!! อย่ามาทำตัวน่ารักใส่แบบนี้สิฟะ!!

 

ผมสู้สายตาของเธอไม่ไหวจึงทำได้แค่หลบตาออกไปมองทางอื่น ใบหูรู้สึกร้อนเล็กน้อย

 

เพราะเธอเป็นเพื่อนสนิท ดังนั้นผมจึงไม่ควรคิดอะไรเกินเลยกับเธอ…แต่ก็ยังอดรู้สึกเขินขึ้นมาไม่ได้อยู่ดี

 

“ขะ เข้าใจแล้วน่า แต่จะว่าไปครั้งนี้ฉันก็ไม่ใช่คนที่วิ่งเข้าไปหาเรื่องให้ตัวเองสักหน่อย…แต่เรื่องมันวิ่งเข้ามาหาฉันเองต่างหาก”

 

“เห~~ อย่างนั้นเหรอๆ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีแล้วล่ะ…ว่าแต่ว่าน้า…เจ้าแมวน้อยรู้สึกเสียใจไหมที่คนโผล่มาช่วยนายเป็นฉัน ไม่ใช่ฮานะจัง?”

 

ผมได้ยินดังนั้นก็หันกลับมามองยูกิด้วยสายตาแปลกใจ

 

“พูดอะไรของเธอ?? เป็นเธอที่มาช่วยฉันไว้แล้วทำไมฉันต้องเสียใจด้วยล่ะ?? ฉันก็ต้องดีใจอยู่แล้วไม่ใช่รึไง??”

 

พอได้ยินอย่างนั้นยูกิก็ยิ้มกว้างออกมา…ก่อนที่จะเปลี่ยนกลายเป็นรอยยิ้มชวนสยองในทันที

 

“ถ้าอย่างนั้น…ทำไมตอนแรกนายถึงจำฉันไม่ได้กันละ หืม!? แล้วอีกอย่างนายก็เรียกฉันว่าฮานะด้วยสินะ…มันหมายความว่ายังไงกันนะ หา!?”

 

เธอเอานิ้วจิ้มไปที่ขาขวาของผมรัวๆ จนผมเผลอร้องลั่นออกมา

 

“โอ้ยๆๆๆๆ เจ็บๆๆๆ ข้าน้อยผิดไปแล้วขอรับท่านยูกิ! โปรดอภัยให้ข้าน้อยด้วยขอรับ จะให้ข้าน้อยทำอะไรข้าน้อยยอมทำให้ทุกอย่างเลยขอรับ!”

 

กึก!! นิ้วของเธอหยุดกระทันหันเมื่อเธอได้ยินสิ่งที่ผมพี่งพูดออกไป

 

“หืม~ ทำได้ทุกอย่างจริงๆหรอ?? ยอมทำทุกอย่างจริงๆใช่ไหม??” เธอหันมาถามด้วยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม

 

“อะ อือ ทุกอย่างเลยขอรับ”

 

“สัญญานะ?”

 

“สัญญาขอรับ!!”

 

รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมของเธอหายไป กลับมาเป็นรอยยิ้มสดใสอีกครั้ง

 

“อือๆ ดีมากๆ งั้นครั้งนี้ฉันจะให้อภัยนายสักครั้งก็แล้วกัน อ๊ะ! เวลาของสกิลใกล้หมดแล้วสิ…ถ้างั้นก่อนอื่นก็ต้อง…รักษาขั้นสูง”

 

ละอองแสงสีขาวสว่างจำนวนมากพุ่งเข้ามาในร่างของผม ก่อนที่บาดแผลต่างๆ ทั่วร่างจะเริ่มรักษาตัวเอง แม้แต่ขาขวาที่หักจนผิดรูปก็ค่อยๆ หายกลับมาเป็นปกติได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

ในระหว่างกระบวนการรักษาที่กินระยะเวลาประมาณ 5 นาที ร่างกายไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย มีแต่เพียงความอบอุ่นที่ให้ความรู้สึกสบายตัวเท่านั้น และไม่นานบาดแผลทั่วร่างก็หายไปจนหมด

 

“เรื่องสัญญาเอาไว้ฉันจะมาทวงทีหลัง เข้าใจนะ??”

 

เมื่อรักษาเสร็จยูกิก็ยืนขึ้นก่อนที่จะส่งมือมาให้ ผมจับมือของเธอก่อนที่จะลุกขึ้นมายืนอยู่ข้างๆ เธอ

 

“เข้าใจแล้วขอรับ หากท่านยูกิอยากได้อะไร ขอแค่บอกมา กระผมจะจัดให้ตามคำขอเลยขอรับ”

 

“ดีมากๆ งั้นฉันไปก่อนนะ เวลาใกล้หมดเต็มทีแล้ว…”

 

“อ๊ะ! เดี่ยวก่อนสิ…เห็นไหมเนี่ย…มัวแต่เล่นจนลืมเรื่องสำคัญไปเลย”

 

“เรื่องสำคัญ?”

 

“ใช่…ยูกิ เธอเคยเห็นการ์ดแบบนี้ไหม?”

 

ผมเลือกที่พูดเข้าตรงประเด็นไปเลย เพราะไม่แน่ใจว่าเวลาการใช้งานสกิลของยูกิจะเหลืออีกนานเท่าไหร่ ผมหยิบการ์ดจักรพรรดินีหมาป่าโทเดนที่พึ่งได้มาออกมาส่งให้กับยูกิ

 

เธอรับการ์ดไปดูอย่างสนใจ ก่อนที่คิ้วของเธอจะขมวดเล็กน้อย

 

“นี่มัน…การ์ดของเจ้าหมาน้อยตัวเมื่อกี้นี้งั้นหรอ? หืม? จักรพรรดินีหมาป่าโทเดน?”

 

“ใช่ การ์ดพวกนี้ได้มันจะตกจากการสังหารมอนสเตอร์น่ะ แต่ที่สำคัญคือถ้าได้มันมาแล้วจะทำให้สามารถเปิดใช้ระบบการ์ดได้ต่างหากล่ะ”

 

“ระบบการ์ดงั้นเหรอ? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยแฮะ”

 

“ทางนี้เองก็พึ่งเคยได้ยินเรื่องระบบการ์ดก็ตอนที่ได้การ์ดมานี่แหละ น่าเสียดายที่นี่ไม่ใช่ร่างจริงของเธอ ความจริงฉันอยากจะลองดูว่าถ้ามอบการ์ดให้กับคนอื่นโดยตรงจะสามารถเปิดระบบการ์ดได้หรือไม่น่ะนะ”

 

“หืม~ เรื่องนั้นฟังดูน่าสนใจแฮะ เอาล่ะ ฉันตัดสินใจได้แล้ว…ว่าแต่นายไปได้การ์ดแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”

 

ถึงจะไม่เข้าใจว่ายูกิตัดสินใจเรื่องอะไร แต่ผมก็ยังตอบคำถามของเธอ

 

“พึ่งได้มาเมื่อช่วงเช้านี้เอง พอจัดการกับราชาหมาป่าโทเดนได้ก็ได้การ์ดของมันมาน่ะ”

 

“อ๊ะ! ฉันรู้แล้วๆ นี่ไงสาเหตุที่นายโดนคุณจักรพรรดินีตัวนี้หมายหัว…นายเป็นคนฆ่าคุณสามีของเธอไปนี่เอง งั้นเหรอๆ …ถ้าเป็นเหตุผลนี้ก็พอเข้าใจได้อยู่ล่ะนะว่าทำไมเธอถึงแค้นนายขนาดออกมาตามล่า”

 

“…”

 

“เอ่อ…ช่วยคุยเรื่องงานก่อนได้ไหมขอรับท่านยูกิ?”

 

“เอ๋~? นี่ก็เรื่องสำคัญเหมือนกันนะ!”

 

“สำคัญตรงไหนกันฟะยัยบ้านี่!”

 

ผมเอามือสับที่หัวของเธอเบาๆ ส่วนยูกิก็ร้อง อ๊าย! ออกมาเอามือกุมหัวตรงส่วนที่โดนมือของผม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองอย่างงอนๆ

 

“ก็เพราะว่านายยังไม่เข้าใจความสำคัญของเรื่องนี้ยังไงล่ะ…โทระคุงลองนึกภาพตามนะนายเป็นคนจัดการราชาหมาป่าใช่ไหมล่ะ? ดังนั้นจักรพรรดินีก็เลยโกรธที่นายเป็นคนฆ่าสามีของเธอ เธอก็เลยออกมาตามล่านายยังไงล่ะ…แต่ว่านะ ถ้าเกิดว่าความจริงแล้วราชาหมาป่าไม่ได้เป็นสามีที่แท้จริงของเธอ แต่เป็นชู้ของเธอแทนล่ะ? นั่นมันก็หมายความว่าเธอเองก็ยังมีสามีตัวจริงของเธออยู่อีกตัวไม่ใช่รึไง? บางทีอาจจะเป็นจักรพรรดิหมาป่าก็ได้ใช่ไหมล่ะ!? ถ้าเกิดว่าคุณสามีตัวจริงของเธอรู้เรื่องที่นายเป็นคนฆ่าภรรยาของเขาล่ะก็…อู้ๆ!?”

 

“หยุด หยุดจินตนาการของเธอไว้แค่นั้นเลยนะ เรื่องแบบนั้นมันจะเป็นไปได้ยังไง?”

 

ผมยื่นมือไปปิดปากของยูกิที่กำลังคึกเอาไว้เพื่อที่จะหยุดเธอไม่ให้พูดเรื่องไร้สาระไปมากกว่านี้

 

“ฮึ! แล้วนายจะเสียใจที่ไม่เชื่อฉัน!”

 

ยูกิที่ดิ้นจนหลุดพ้นเงื้อมมือของผมไปได้ พูดออกมาอย่างงอนๆ

 

“อ๊ะ! เวลาหมดแล้วล่ะ ฉันต้องไปแล้ว งั้นเรื่องระบบการ์ดเอาไว้โทรคุยกันคืนนี้อีกทีแล้วกันนะ…เอาไว้เจอกันใหม่เร็วๆ นี้นะเจ้าแมวน้อย”

 

พูดจบยูกิก็ส่งการ์ดคืนให้กับผม ก่อนที่ร่างของเธอจะค่อยๆ กลายเป็นละอองแสงและหายไปในที่สุด

 

“…”

 

สุดท้ายก็ไม่ได้สาระอะไรสินะ เอาเถอะ…อย่างน้อยก็ยังบอกเรื่องระบบการ์ดไปได้เรื่องนึงล่ะนะ

 

ผมอดที่จะอมยิ้มน้อยๆ กับท่าทางของยูกิไม่ได้

 

“ว่าแต่…จักรพรรดิหมาป่างั้นเหรอ? ฮะๆ ไร้สาระน่า…เอาล่ะ เก็บของแล้วกลับเมืองก่อนดีกว่า”

 

☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆

 

(ได้เขาช่วยเอาไว้อีกแล้ว…)

 

ตลอดทางที่ฉันวิ่งหนีมา ฉันเอาแต่นึกถึงความไร้ประโยชน์ของตัวเอง

 

น่าแปลกใจที่ความรู้สึกในครั้งนี้กลับไม่ทำให้ฉันท้อแท้หรือเศร้าหมองเหมือนก่อนหน้านี้ แต่มันกลับเต็มไปด้วยแรงผลักดันที่อยากจะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น

 

(ฉันจะต้องแข็งแกร่งขึ้น! แข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าฉันจะสามารถปกป้องตัวเอง และช่วยเป็นกำลังให้กับคุณโทระได้!!)

 

ฉันตัดสินใจอย่างแน่วแน่กับตัวเอง และในตอนนั้นเอง

 

ปาร์ตี้ได้กำจัดจักรพรรดินีหมาป่าโทเดน (ระดับตำนาน) เลเวล 360 สำเร็จ

 

ได้รับค่าประสบการณ์ 57,600 แต้ม

 

ได้รับ เนื้อจักรพรรดินีหมาป่าโทเดน (ระดับตำนาน) 19 ชิ้น

 

ได้รับ เศษโครงกระดูกจักรพรรดินีหมาป่าโทเดน (ระดับตำนาน) 13 ชิ้น

 

ได้รับ เขี้ยวจักรพรรดินีหมาป่าโทเดน (ระดับตำนาน) 14 ชิ้น

 

ได้รับ หนังจักรพรรดินีหมาป่าโทเดน (ระดับตำนาน) 4 ชิ้น

 

ได้รับ การ์ดอาณาเขตสลับธาตุ 1 ใบ

 

อยู่ๆ ก็มีหน้าจอแจ้งเตือนขึ้นมาจนฉันตกใจจนเผลอหยุดวิ่ง และยืนนิ่งอยู่กับที่

 

“เอ๊ะ? อะไรกัน? เลเวล 360? จักรพรรดินี? …จักรพรรดินีงั้นเหรอ…!? มะ ไม่จริง! แย่แล้ว!! ต้องรีบเตือนคุณโทระ มะ ไม่สิต้องรีบแจ้งเตือนไปทางเมืองหลวง ต้องรีบไปแจ้งท่านพ่อ!!”

 

(ใจเย็นๆ คุณโทระเคยสอนไว้แล้วนี่ว่าเวลาแบบนี้เรายิ่งต้องมีสติ…)

 

ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ หลายครั้ง ก่อนที่จะเริ่มตั้งสติได้

 

“แสดงว่าตอนนี้คุณโทระจัดการเจ้าบอสตัวนั้นได้แล้ว…ถ้าอย่างนั้นก่อนอื่นต้องไปเจอกับคุณโทระตามที่นัดกันไว้ก่อน แล้วค่อยคิดกันอีกทีว่าจะทำยังไงกันดี…แต่ก่อนอื่น”

 

ฉันหันไปมองซิกนัมกับแมรี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจสวมใส่การ์ดทั้งสองใบที่ได้รับมาจากคุณโทระ

 

“แมรี่ ซิกนัม กลับเข้าไปอยู่ในรังหมาป่าก่อนนะ”

 

ทั้งสองตัวเห่าตอบรับก่อนที่จะกระโดดหายเข้าไปในประตูมิติสีแดง

 

เมื่อเก็บทั้งสองตัวเข้าไปอยู่ในรังแล้วฉันก็เริ่มออกวิ่ง พลางนึกย้อนไปถึงเรื่องที่เคยได้ฟังมาเมื่อในอดีตในสมัยที่ตัวเธอได้เข้าไปเรียนวิชาประวัติศาสตร์ในวังหลวง…

To-ra Story : คณะท่องโลกของนายโทระ

To-ra Story : คณะท่องโลกของนายโทระ

Status: Ongoing
ตั้งแต่ที่ได้มาอยู่ที่โลกนี้ เวลาก็ผ่านไป 6 ปีแล้ว แล้วก็…ทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ก็ยังดื้อดึง สุดท้ายก็พ่ายแพ้กลับมา แต่ในเมื่อไม่มีอะไรคาใจแล้ว…ก็ขอออกไปท่องโลกกว้างดูสักครั้งแล้วกัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน