บทที่ 191 คุณชายเย่สามพบเข้าแล้ว(1)
เพียงแค่ได้ยินเสียงข้อความดังขึ้นเธอก็รู้ว่าเป็นเห่อถงถงที่ ส่งมา เวลานี้เย่ซื่อเฉินยังมาไม่ถึง เวินลั่วฉิงหยิบมือถือกด เข้าไปดูข้อความ
เป็นเห่อถงถงที่ส่งข้อความมาให้เธอ น่าจะมีเรื่องอะไรบาง อย่าง อาจจะเกี่ยวกับลูกน้อยทั้งสองของเธอ
“ที่รัก วันที่สิบเอ็ดเด็กน้อยทั้งสองหยุดยาว จื่อโม่บอกว่า อยากออกไปเที่ยวสักสองสามวัน เธอสะดวกออกจากบ้าน ไหม หากเธอไม่สะดวก ฉันก็จะพาเด็กน้อยทั้งสองคนไป เที่ยวสักสองสามวัน เด็กน้อยทั้งสองคนนี้ตั้งแต่กลับมายังไม่ ได้ไปเที่ยวไหนเลย”
เวินลั่วฉิงดูข้อความที่เห่อถงถงส่งมา แล้วมองไปที่เย่ซือเฉิ นที่เพิ่งจะจอดรถเสร็จแวบหนึ่ง หัวใจตอนนี้ราวกับถูกแมว ช่วน เธออยากไปเที่ยวกับลูกน้อยทั้งสอง แต่ว่าเยซือเฉินจะ อนุญาตมั้ย?
“สามีจำ วันที่สิบเอ็ดมีวันหยุดยาว ฉันสามารถออกไป เที่ยวสักสองสามวันมั้ย?” เย่ซื้อเฉินได้เดินมาถึงด้านหน้า ของเธอ เวินลั่วเฉิงมองไปที่เขา ถามอย่างลองเชิง
“คุณอยากออกไปเที่ยว? ไม่กี่วันผมก็จะไปทำงานที่ประเทศRแล้ว ถึงเวลานั้นผมพาคุณไปด้วย” เย่ซือเฉินไม่ได้ คิดมาก นึกว่าเธอแค่รู้สึกอุดอู้เกินไป เลยอยากออกไปเที่ยว
เงินลั่วชิง: ” .”
ใครจะไปกับคุณ? เธอจะไปเที่ยวกับลูกน้อยของเธอต่าง
หาก?
อีกอย่าง ก็รู้ๆอยู่ว่าเขาไปประเทศRนั้นคือไปพร้อมกับเมิ่ง โร่ถึง เธอจะไปทำไม? ไปเป็นก้านขวางคอเหรอ?
“สามีจำ ฉันอยากออกไปเที่ยวคนเดียว. ” เวินลั่วฉิ่ง แอบถอนหายใจ พูดเสริมอีกครั้งอย่างระมัดระวัง
“ยังไง? ความหมายของคุณคือรังเกียจผม?” เลยซื้อเฉินที่ กำลังเตรียมจะเปิดประตูรถจู่ๆก็หยุดเคลื่อนไหวทันที มองมา ทางเธออย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าดวงตาคู่นั้นได้หรี่ลงทันที เขาไปเป็นเพื่อนเธอ เธอยังจะรังเกียจ?
ผู้หญิงคนนี้ช่างยั่วโมโหเขาเก่งเสียจริง!
เงินลั่วชิง: “.
ใช่ เธอรังเกียจเขา เธอชอบแค่ลูกน้อยทั้งสองของเธอ เธอ แต่อยากออกไปเที่ยวกับลูกน้อยทั้งสองของเธอ
แต่ว่าคำพูดเหล่านี้เมื่อมาถึงตรงมุมปากของเวินลั่วจึง ก็ได้ถูกกลืนเข้าไป
“ฉันไม่ได้รังเกียจคุณ ฉันแต่ไม่อยากไปประเทศR” เป็นลั่วจึงเห็นทำทางของเขาตอนนี้ ไม่เพียงแต่กลืนคำพูด ก่อนหน้านั้น ยังไม่กล้าพอจนต้องเปลี่ยนคำพูด
เธอคิด หากเธอพูดว่ารังเกียจเขา เขาคงจะตบเธอให้ตาย คาที่ตรงนี้
“คุณไม่อยากไปประเทศR ผมสามารถพาคุณไปที่อื่น?” คุณอยากไปที่ไหนล่ะ? สีหน้าของเย่ซื้อเฉินผ่อนคลายลงเล็ก น้อย แค่ไม่รังเกียจเขาก็พอ ในขณะนี้เขากลับเป็นสามีที่ดีที่ สามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง
เป็นลั่วจึง: ” .”
ใครอยากให้เขาไปเป็นเพื่อนล่ะ เธอแค่ต้องไปพาลูกน้อย ทั้งสองของเธอออกไปเที่ยว
เธอสามารถที่จะพูดว่าเธอรังเกียจเขา ก็คือรังเกียจเขา ก็ คือรังเกียจเขางั้นเหรอ?!
“คุณเป็นอะไร?” เย่ชื่อเฉินเห็นปฏิกิริยาของเธอ ขมวดคิ้ว เล็กน้อย: “ทำไมผมรู้สึกว่าท่าทางคุณเหมือนอยากจะกวาด ผมไปให้พ้นจากบ้านหลังนี้”
มุมปากของเวินลั่วฉิงกระตุกเล็กน้อย ตาของเย่ชื่อเฉินไม่ ต้องเฉียบคมขนาดนี้ก็ได้มั้ง?
เมื่อเขามีความรู้สึกที่อยากจะกวาดเขาออกจากบ้านอย่างวู่วาม
แต่ว่าเธอทำได้เพียงแต่คิดไม่สามารถทำแบบนั้นได้จริง
เธอรู้สึกว่าชาติที่แล้วเธอคงติดหนี้เยซือเฉิน สวรรค์ถึงได้ ให้เธอมาชดใช้หนี้ในชาตินี้
สุดท้าย เงินลั่วชิงก็ไม่ได้ออกไปเที่ยวกับลูกน้อยทั้งสอง เพราะว่าเย่ซื้อเฉินไม่อนุญาตให้เธอออกไปเที่ยวคนเดียว เย่ซื้อเฉินพูดแล้ว จะออกไปเที่ยวนั้นได้ แต่ต้องมีเขาไปด้วย
ให้เขาไปด้วยแล้วเธอจะดูแลลูกน้อยสองคนได้อย่างไร?
และไม่กี่วันมานี้ เยซือเฉินก็อยู่แต่ในบ้าน เธอไม่มีแม้ กระทั่งโอกาสที่จะแอบหนีออกไปได้ วันที่สามเย่ซื่อเฉินก็ได้ออกไปทำงานนอกสถานที่ ไป
ประเทศRเหมือนเดิม เพราะครั้งที่แล้วยังจัดการงานไม่แล้ว เสร็จ
ก่อนที่เคยซื้อเฉินจะไปได้บอกไว้ว่าหลังสามวันจะกลับมา
หลังจากที่เย่ซื้อเฉินออกไปทำงานแล้ว เดิมทีเวินลั่วฉึงคิด ไว้ว่าจะไปหาเห่อถงถง แล้วไปเที่ยวพร้อมกับเด็กๆสักสองวัน แต่แล้วทางซ่งหยุนก็ได้เกิดเรื่องผิดพลาดบางอย่าง จัดการ ปัญหาของซ่งหยุนเรียบร้อยแล้ว ก็เหลือเวลาไม่มากแล้ว
เป็นลั่วจึงทำได้แค่ยกเลิกแผนที่วางไว้ ครั้งหน้าค่อยหา โอกาสพาลูกน้อยทั้งสองออกไปเที่ยว
วันที่สามนั้น เห่อถงถงได้พาเด็กน้อยสองคนกลับมาแล้ว หลังจากที่เครื่องลงจอดที่เมืองA เด็กชีหลับได้ลึกมากปลูกยัง ไงก็ไม่ตื่น พอดีเห่อถงถงซื้อของมาเยอะด้วย ทำให้เธอ เหมือนจะไม่เอาไม่อยู่
เห่อถงถงนั่งไฟลท์เช้าสุด ก่อนที่เธอจะขึ้นเครื่องก็ได้โทร หาเป็นลั่วถึงแล้ว
“ฉิงฉิง พวกเราถึงสนามบินแล้ว จื่อซียังหลับอยู่ อาจจะใช้ เวลาในการออกมาจากสนามบินนานหน่อยเธอมาหรือยัง?” ขณะที่เห่อถงถงโทรหาเงินลั่วชิง มืออีกข้างยังอุ้มถังจื่อซีไว้ ค่อนข้างกินแรงพอสมควร
“ฉันใกล้ถึงแล้ว” น้ำเสียงของเวินลั่วฉิงดูร้อนรน เห็นได้ ชัดว่ามีความลนลานเล็กน้อย เธอไม่สามารถไปเที่ยวกับลูก น้อยสองยังไงเธอก็ต้องมารับลูกที่สนามบินเป็นอันดับแรก
ไม่ได้เจอกันหลายวัน เธอคิดถึงลูกน้อยทั้งสองเป็นอย่าง
มาก
สาเหตุที่มาช้า เวินลั่วชิงไม่ได้ขับรถด้วยตนเอง ใช้บริการ รถรถแท็กซี่ ระหว่างทางรถติด จึงทำให้เสียเวลาไปบ้าง ไม่ อย่างนั้นเธอคงถึงสนามบินแต่เช้าแล้ว
เงินลั่วชิงถึงสนามบินหลังจากที่ลงรถแล้วนั้น เยซื่อเฉิน เดินออกมาจากสนามบินพอดี เพราะความเร่งรีบของ เวินลั่วชิง ทำให้เธอมองไม่เห็นเยซื้อเฉิน แต่เยชื่อเฉินเห็นเธอเข้าแล้ว
ชื่อเฉินหยุดเดิน เห็นเธอต่อนข้างรีบร้อนเข้าไปในสนาม บิน แววตาของเขาค่อยๆหรี่ มอง เธอมาทำอะไรที่สนามบิน?
เธอรีบร้อนขนาดนี้น่าจะมีเรื่องอย่างแน่นอน!
มีเรื่องอะไรทำให้เธอรีบร้อนได้ขนาดนี้?
เลขาหลิวได้ยกสัมภาระขึ้นรถไปแล้ว เห็นประธานของตัว เองยังยืนอยู่โดยไม่ขยับ มีความสงสัยเล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้า
เร่ง
“รอสักครู่” เยซือเฉินเป็นคนไม่ชอบอธิบาย สายตาคู่นั้น มองไปที่ด้านหลังของเวินลั่วชิง ตวงตามีความซับซ้อนเล็ก น้อย
เลขาหลิวมองตามทิศทางของเย่ซื้อเฉิน เห็นเวินลั่วฉิงเข้า ก็เลยไม่สงสัยว่าทำไมท่านประธานถึงให้รอก่อน
“คุณหญิง คุณหญิงมารับท่านประธานหรือเปล่า?” นี่เป็น ความเป็นไปได้แรกที่เลขาหลิวนึกถึง เวลานี้คุณหญิงปรากฏ ตัวตรงนี้ต้องมารับท่านประธานแน่นอน
หางคิ้วของเย่ซื้อเฉินขยับเล็กน้อย มารับเขา? เขาเหมือน จะไม่ได้บอกเธอว่าจะกลับมาเวลาไหน และไม่ได้ให้เธอมา รับเขา แต่เขาได้บอกเธอไว้ว่า ไปทำงานสามวัน ดังนั้น เธอ
น่าจะรู้ว่าเขากลับมาวันนี้
แต่เธอจะมารับเขาโดยที่ไม่บอกเหรอ? เธอมีความรู้สึก สำนึกสูงขนาดนี้เชียว?
เปซื้อเงินสงสัยเล็กน้อย ไม่ค่อยอยากจะเชื่อ แต่เขาก็ได้ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ค้นหาหมายเลขของเธอ
แต่ว่าเขายังไม่ได้โทรเงินลั่วชิงก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมา เห็นได้ชัดว่ากำลังจะโทรออก
การกระทำของเยื่อเฉินก็ได้หยุดลงทันที หากเธอมารับ เขาจริงงั้นตอนนี้เธอก็ต้องโทรหาเขา ในใจของเย่ชื่อเฉินจู่ๆ ก็คาดหวังขึ้นมา
เพียงแต่เขาเห็นกับตาว่าเธอโทรออก แต่โทรศัพท์ของเขา กลับไม่ตั้ง เห็นได้อย่างชัดเจน เธอไม่ได้โทรหาเขา
ซึ่งก็หมายความว่า เธอไม่ได้มารับเขา
ดวงตาของเย่ซื้อเฉินหรี่ลงเล็กน้อย เธอไม่ได้โทรหาเขา งั้นเธอโทรหาใคร?
เธอมารับใครกัน?