“ฆ่า…” เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกระบวนท่าสังหารของเซียนหวังอิเย่ เทพโบราณกุยฝาน และหลี่ชิเย่ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดก็คำรามเสียงดังออกมา กระดูกแก่นนิรันดร์กาลกาลในมือกวาดออกไปอย่างรุนแรง หวังอาศัยหนึ่งกระบี่ต้านรับกับกระบวนท่าสังหารเด็ดขาดทั้งสามเอาไว้
กระดูกแก่นนิรันดร์กาลนั้นมีความน่ากลัวและปราศจากผู้ต่อกรเพียงใด หนึ่งกระบี่สังหารสิ้นเหล่าราชัน หนึ่งกระบี่ที่กวาดออกไปอย่างรุนแรง ราพณาสูรสิ้นสิบสามทวีป ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้า ภายใต้หนึ่งกระบี่ของกระดูกแก่นนิรันดร์กาล จอมราชันเซียนหวังก็เปรียบประดุจมดปลวก ไม่คู่ควรจะกล่าวถึง
“ทำลาย…” หลี่ชิเย่คำรามเสียงดัง สิบสามลัคนา พลังจากชะตาฟ้า เรือทั้งสาม ข้านี่แหละสูงสุด สัจธรรมชิเย่ สิบสองเทพมาร พลังหมัดสยบสวรรค์ล้วนแล้วแต่ถูกโจมตีออกไป ขณะเดียวกัน วังวนทอง เงิน เหล็กที่เป็นวังวนใหญ่ทั้งสามได้กลับกลายเป็นเหมือนโล่ขนาดยักษ์ที่ทุ่มเข้าไปอย่างแรง
การโจมตีเต็มที่ของหลี่ชิเย่สามารถทำให้จักรวาลที่ไร้ขอบเขตแหลกละเอียดเป็นผุยผง ต่อให้เป็นจอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายก็ยากที่จะต้านการโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ไว้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น การที่วังวนทอง เงิน เหล็กเสมือนหนึ่งกลายเป็นโล่ยักษ์ หอบเอาพลังดั้งเดิมขมุกขมัวสูงสุดดึกดำบรรพ์โจมตีเข้าไป ซึ่งพลังลักษณะเช่นนี้สามารถบดขยี้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกได้
จังหวะที่หลี่ชิเย่โจมตีนั้น ศิลาจรัสดั้งเดิมส่งประกายเจิดจ้ายิ่งนัก พลังความสว่างพุ่งขึ้นถึงระดับสูงสุด ได้ยินเสียงดังจี๊ดเสียงหนึ่ง ความมืดที่เดิมดั่งคลื่นยักษ์ไม่มีสิ้นสุดถูกหลอมกลั่น พลังความมืดพลันถูกลดทอนลงไปมากทีเดียว
ตูม…จากการโจมตีขั้นสุดท้ายของหลี่ชิเย่ วังวนทอง เงิน เหล็กทั้งสามได้ปะทะซึ่งหน้ากับกระดูกแก่นนิรันดร์กาลของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืด พลิกสถานการณ์กลับมา ต้านการโจมตีที่ปราศจากผู้ต่อกรที่สุดเอาไว้ได้ในฉับพลัน
การโจมตีที่ไร้เทียมทานในหล้าของหลี่ชิเย่นับว่าน่ากลัวยิ่งเหลือเกิน ในโลกนี้ไม่มีผู้ใดสามารถต้านเขาได้อีกแล้ว
นับว่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดก็มีความน่ากลัวอย่างแท้จริง หนึ่งกระบี่กระดูกแก่นนิรันดร์กาลเรียกได้ว่าสามารถทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก ต่อให้หลี่ชิเย่ฝืนต้านการโจมตีดื้อๆ เอาไว้ ยังคงถูกประกายกระบี่ที่น่ากลัวกวาดถูกตัว ต้องก้าวถอยหลังตึงตึงตึงติดต่อกันหลายก้าว และมีเลือดไหลซึมออกมาที่มุมปาก แม้ว่าหลี่ชิเย่จะได้สวมหนังมนุษย์แล้วก็ตาม
แต่ว่า เมื่อการโจมตีของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดถูกต้านเอาไว้โดยหลี่ชิเย่ ทันใดนั้นร่างกายของเขาพลันถูกดาบวงพระจันทร์สองเล่มของเทพโบราณกุยฝานฟันเข้าให้ แม้ว่าปีกแห่งความืดของเขาได้พยายามขวาง ‘ดาบจันทราคู่’ ของเทพโบราณกุยฝานเอาไว้ ร่างกายของเขายังคงถูกฟันจนขาด!
เสียงปังเสียงหนึ่งดังขึ้น พริบตาเดียวที่ร่างกายถูกฟันจนขาดนั้น ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดยังคงมีศักยภาพที่ปราศจากผู้ต่อกร แต่ว่า ฉับพลันนั้นเอง เซียนหวังอิเย่ก็ได้โจมตีเข้ามา ตราประทับเหรินหวังอาศัยท่าทีสังหารเด็ดขาดโจมตีเข้าบนตัวของเขา
ตามด้วยเสียงตูมดังสนั่นขึ้น ร่างกายของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดพลันถูกบดขยี้ทำลายไปทันที อาวุธจอมราชันเซียนหวังโดยทั่วไปไม่สามารถทำอันตรายต่อร่างกายของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดได้อยู่แล้ว เวลานี้ ภายใต้บทคัมภีร์ฟ้าดินของตราประทับเหรินหวังที่เป็นกระบวนท่าสังหารเด็ดขาดที่สุด เซียนหวังอิเย่อาศัยท่าไม้ตายที่ปราศจากผู้ต่อกรที่สุดบดขยี้ทำลายไป
แต่ มันเป็นเพียงการบดขยี้ทำลายเฉพาะกายเนื้อเท่านั้น โดยชะตาแท้ยังคงอยู่ แต่ทว่า การโจมตีถึงตายที่แท้จริงมาแล้ว เสียงปุเสียงหนึ่งดังขึ้น พริบตาเดียวนั่นเอง เกาทัณฑ์สวรรค์ลงทัณฑ์ได้ยิงถูกชะตาแท้ของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืด
ชะตาแท้ของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดแข็งแกร่งจนทำให้ผู้คนต้องหวาดหวั่น แต่ว่าในขณะนี้สวรรค์ลงทัณฑ์ที่หลี่ชิเย่มีอยู่นั้น เป็นการรวมเอาสวรรค์ลงทัณฑ์ของจอมราชันเซียนหวังหลายสิบคนเข้าด้วยกัน เกาทัณฑ์สวรรค์ลงทัณฑ์เพียงดอกเดียวสามารถสังหารได้ทุกคน
ต่อให้ชะตาแท้ของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดแข็งแกร่งมากไปกว่านี้ก็ตาม ภายใต้ปราศจากกายเนื้อคุ้มครองก็ไม่สามารถต้านทานกับเกาทัณฑ์ดอกนี้เอาไว้ได้ ชะตาแท้พลันถูกยิงจนทะลุท่ามกลางเสียงปุที่ดังขึ้น
“อ๊ากก…” เสียงร้องที่น่าเวทนาดังขึ้น เมื่อสวรรค์ลงทัณฑ์ยิงทะลุชะตาแท้ของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดเข้าให้อย่างแท้จริงแล้ว ต่อให้เขาแข็งแกร่งมากไปกว่านี้ก็ต้องถูกยิงจนเสียชีวิต!
“ปิดฝาโลง…” เวลานี้หลี่ชิเย่คำรามเสียงยาว ปรากฏเสียงเอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยดดังขึ้น ภายใต้พลังสูงสุดของหลี่ชิเย่ ฝาโลงที่เปิดออกถูกปิดลงทันที ได้ยินเสียงดังตึง ตึง ตึงดังขึ้นมา กฎเกณฑ์สิบสองสายได้จัดการพันธนาการโลงมรณะเอาไว้อย่างหนาแน่น
บรรดาดวงตาแห่งความมืดแต่ละคู่ที่อยู่ด้านหลังประตูแห่งความมืดถึงกับเต้นกระตุกทีหนึ่ง และม่านตามีการหรี่ลง เมื่อมองเห็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดถูกพวกของหลี่ชิเย่ร่วมมือกันสังหาร เนื่องจากผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดตนนี้ของพวกเขานั้น ในบรรดาผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดด้านความแข็งแกร่งก็นับว่าจัดอยู่ในอันดับต้นๆ เนื่องจากมีโลงมรณะ อาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคในครอบครอง เรียกว่าดำรงอยู่ในฐานะที่น่าสยองขวัญยิ่ง! ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของบรรดาผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย
แต่มาวันนี้ยังคงถูกพวกของหลี่ชิเย่ร่วมมือสังหาร ซึ่งสิ่งนี้ทำให้พวกเขารับรู้ถึงการถูกคุกคาม กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วมันคือเรื่องที่สยองขวัญอย่างยิ่ง ก่อนหน้าไม่นานพวกเขายังเข้าใจว่าในโลกนี้ยากจะมีใครสามารถฆ่าพวกเขาให้ตายได้ เวลานี้ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดกลับถูกฆ่าตายเป็นๆ เช่นนี้
ภาพนี้สร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนเหลือเกิน มีผู้ที่พึมพำออกมาว่า “สิ้นสุดแล้วรึ?”
ขณะที่ทุกคนล้วนแล้วแต่เข้าใจว่าทุกอย่างได้สิ้นสุดลงแล้ว แว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น โลงมรณะกลับปรากฎวลวดลายเต๋าที่ลอยล่อง ท่ามกลางลวดลายเต๋าลอยล่องปรากฏเป็นชะตาแท้ขึ้นมา ได้ยินเสียงดังจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น ชะตาแท้ที่ปรากฏขึ้นมาต้องการสร้างกายเนื้อขึ้นมาใหม่ เขาก็คือผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดที่เพิ่งถูกฆ่าตายไปนั่นเอง!
“ฟื้นคืนชีพ นี่ นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!” แม้แต่จอมราชันเซียนหวังยังต้องใจหายใจคว่ำเมื่อมองเห็นภาพนี้แล้ว กล่าวสำหรับจอมราชันเซียนหวังแล้วทุกคนต่างรู้ดีว่า กายเนื้อถูกทำลายได้ แต่ชะตาแท้ไม่ได้ เมื่อไรที่ชะตาแท้ถูกทำลายก็จะถูกฆ่าตายอย่างแท้จริง!
“ลงมา!” เมื่อหลี่ชิเย่มองเห็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดหวังจะสร้างกายเนื้อขึ้นมาใหม่ หลี่ชิเย่คำรามเสียงยาวออกมาคำหนึ่ง เสียงตึงดังขึ้น กฎเกณฑ์สิบสองสายดึงจนแน่น ต้องการบังคับดึงเอาโลงมรณะลงมาให้จงได้ Aileen-novel
‘เหรินหวังก้าวสู่เซียน’ เซียนหวังอิเย่คำรามเสียงดัง ท่าไม้ตายพลันโจมตีเข้าหา เมื่อเห็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดหวังสร้างกายเนื้อขึ้นใหม่
‘จันทราคู่ประหาร’ เทพโบราณกุยฝานพลันอาศัยดาบคู่โฉบพลันฟันเข้าไปยังผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืด
“ฆ่า…” ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดโกรธจัดจนแทบคลั่ง กล่าวสำหรับเขาแล้วการถูกผู้เยาว์สังหารเป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับกันได้ กระดูกแก่นนิรันดร์กาลสำแดงเดชอีกครั้ง แต่ทว่า ตัวเขาที่ชะตาแท้เพิ่งจะฟื้นคืนชีพ แม้แต่กายเนื้อก็ยังสร้างไม่ทันเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ต่อให้หนึ่งกระบี่กระดูกแก่นนิรันดร์กาลปราศจากผู้ต่อกร ยังคงมีอานุภาพที่ลดทอนลงไปมากทีเดียว ไม่เหมือนเช่นก่อนหน้านั้น
ตึง…ตึง…ตึง…ทั้งสองฝ่ายปะทะกันซึ่งหน้า สะเก็ดไฟแตกกระจาย ทำลายฟ้าดิน แต่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดที่ยังไม่ทันฟื้นคืนสภาพไม่สามารถรับมือกับการร่วมมือกันของเซียนหวังอิเย่และเทพโบราณกุยฝาน ได้ยินเสียงดังปุ ปุ ปุ กายเนื้อของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดที่ยังไม่ทันสร้างเสร็จสมบูรณ์ก็ถูกทำลายจนแหลกละเอียดไปภายในระยะเวลาอันสั้น
ขณะที่นาทีนี้ ประกายที่ไม่มีสิ้นสุดพวยพุ่งออกมาจากศิลาจรัสดั้งเดิมซึ่งควบคุมโดยพวกของราชันเซียนมู่เทียนได้พันธนาการชะตาแท้ของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดเอาไว้ เมื่อไรที่ชะตาแท้ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดเกิดเป็นควันดำขึ้นมา และชะตาแท้ของเขาถูกเผาไหม้จนหมดหละก็ เขาต้องตายอย่างแน่นอน
เอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยด…ภายใต้การบังคับลากของหลี่ชิเย่ และชะตาแท้ของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดต้องแบ่งกำลังเป็นหลายส่วน จึงทำให้เริ่มจะควบคุมโลงมรณะไม่ได้ ถูกหลี่ชิเย่ดึงลงไป
“น่าเสียดาย เจ้าไม่สามารถฟื้นคืนชีพในโลงมรณะได้อีกแล้ว!” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “เล่าลือกันว่าโลงมรณะสามารถทำให้ผู้ใดก็ตามฟื้นคืนชีพได้หนึ่งครั้ง ขณะที่ผู้ที่ถูกกำหนดตัวเอาไว้สามารถฟื้นคืนชีพได้เก้าครั้ง ข้าไม่รู้ว่าเจ้าได้ฟื้นคืนชีพมาแล้วกี่ครั้ง!”
“เปิด…” ทันใดนั้นเอง ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดคำรามเสียงดัง โลงมรณะปรากฏร่างเงาที่สูงใหญ่ขึ้นมา ซึ่งก็คือตัวของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดนั่นเอง ทันใดนั้น ร่างเงาที่แปลงมาจากกฎเกณฑ์สัจธรรมได้หลอมรวมเข้ากับชะตาแท้ของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืด เสียงดังจี๊ด ฉับพลันนั้นทำให้ชะตาแท้ของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดฟื้นคืนพลังชีวิตกลับมา
เสียงตูม…ดังสนั่น พริบตาเดียวนั่นเอง ชะตาแท้ของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดแบกเอาโลงมรณะขึ้นมา และปะทุประกายที่ไม่มีสิ้นสุดออกมา อาศัยพลังที่แข็งแกร่งที่สุดหันหลังวิ่งหนีทันที
ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดต้องการหลบหนีเสียแล้ว แต่ว่าเขาจะต้องนำเอาโลงมรณะหนีไปได้ ดังนั้น จังหวะที่เขาหลบหนีนั้น กระดูกแก่นนิรันดร์กาลได้ทำการปิดกั้นเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินอย่างเด็ดขาด และอาศัยหนึ่งกระบี่ต้านการไล่ติดตามและโจมตีอย่างรุนแรงของเซียนหวังอิเย่และเทพโบราณกุยฝาน โดยที่ชะตาแท้ของเขาแบกเอาโลงมรณะหลบหนีไป
ตูม…เสียงดังขึ้นเสียงหนึ่ง โลงมรณะทำลายท้องฟ้าจนละเอียด ยามที่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดต้องการหลบหนีอย่างสุดชีวิตนั้น ไม่ว่าใครก็ขวางไม่อยู่ หลี่ชิเย่ยื้อยุดฉุดโลงมรณะเอาไว้อย่างเต็มที่ แต่ว่า ยังคงรั้งโลงมรณะที่พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าไม่ได้!
ปัง…พริบตาเดียวนี้เอง โลงมรณะได้ทำลายกรงขังของโลกดึกดำบรรพ์ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดนำเอาโลงมรณะหวังหลบหนีไปจากที่ตรงนี้
พริบตาเดียวนั้นเอง ปรากฎเสียงตูมเสียงหนึ่งดังขึ้นมากระทันหัน บนท้องฟ้าปรากฎหนึ่งกระบวนท่าที่ปราศจากผู้ต่อกรพุ่งตรงลงมาจากเก้าชั้นฟ้าเพื่อสังหาร และโจมตีเข้าไปยังชะตาแท้ของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืด ขณะที่การสังหารลักษณะเช่นนี้พุ่งลงมา บรรดาราชันและเหล่าเทพต่างหวาดกลัวจนขนลุกซู่!
‘เคล็ดสยบราชัน!’ ระดับเซียนหวังถึงกับรู้หสึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงและร้องเสียงดังขึ้นมา เมื่อมองเห็นท่าสังหารเด็ดขาดที่สังหารบรรดาราชันและเหล่าเทพในกระบวนท่าเดียว
ทุกคนต่างนึกถึงคนผู้หนึ่งทันที เมื่อได้ยินคำว่า ‘เคล็ดสยบราชัน’ ผู้หญิงที่เคยเกรียงไกรไปทั่วสิบสามทวีปคนนั้น!
จี๊ด…ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดอาศัยหนึ่งกระบีต้านเซียนหวังอิเย่กับเทพโบราณกุยฝานเอาไว้ ไหนเลยสามารถป้องกันการปราบที่เด็ดขาดซึ่งโจมตีลงมาอย่างกะทันหันนี้ได้! ภายใต้การโจมตีของเคล็ดสยบราชัน พลันทำให้ชะตาแท้ของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดแหลกเหลวไป ชะตาแท้แตกละเอียดไม่มีชิ้นดี พลังอำนาจลดฮวบลง
“ลงมา…” หลี่ชิเย่คำรามเสียงยาว ออกแรงดึงโลงมรณะอย่างแรง ปังโลงมรณะร่วงหล่นลงจากท้องฟ้าสูง ขณะที่พลังของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดก็ลดลงไปมาก ไม่สามารถดึงกับหลี่ชิเย่ได้
เสียงตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ได้ยินเสียงเหมือนปลดล๊อค คล้ายมีอะไรบางอย่างที่ถูกปลดออก ตูมเสียงดังสนั่น ในห้วงเวลาความเป็นความตาย ชะตาแท้ที่แตกละเอียดไม่มีชิ้นดีของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดนั่นได้สละทิ้งโลงมรณะ แล้วชะตาแท้ที่แตกละเอียดไม่มีชิ้นดีพลันหลอมรวมเข้ากับกระดูกแก่นนิรันดร์กาล โจมตีจนเกิดเป็นหลุมดำที่น่ากลัวขึ้น ก้าวข้ามมิติหายตัวไปท่ามกลางความมืดที่สุดลูกหูลูกตานั่น
“อย่าไล่ตามไป ระวังถูกซุ่มโจมตี!” ในเวลานี้ ทั้งเซียนหวังอิเย่และเทพโบราณกุยฝานคิดจะไล่ล่าสังหารไป แต่หลี่ชิเย่กล่าวและส่ายหน้า
ตูมเสียงหนึ่งดังขึ้น หลี่ชิเย่อาศัยกำลังบังคับลากเอาโลงมรณะลงมา และตกไปอยู่บนมือของเขา
“เสียดายอยู่นิดหนึ่ง ฉลาดล้ำเหลือเกิน มิฉะนั้นหละก็หากสามารถสยบเขาเอาไว้ได้ จะสามารถได้สิ่งของมากมายยิ่งกว่านี้” หลี่ชิเย่กล่าวพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ
ถ้าหากผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดตกอยู่ในมือของหลี่ชิเย่ เขาก็สามารถรีดเอาข่าวคราวที่มีประโยชน์จากตัวเขาได้มากกว่านี้
ช่วงเวลาระหว่างความเป็นความาย ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดตัดสินใจได้เด็ดขาดมาก เดิมทีเขาได้หมายมั่นโลงมรณะเอาไว้ เนื่องจากโลงมรณะสามารถช่วยให้เขาฟื้นคืนชีพได้ แน่นอน เขาก็สามารถอาศัยโลงมรณะมาช่วยให้ผู้อื่นฟื้นคืนชีพได้เช่นกัน! แต่ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง เขากลับสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด ด้วยการละทิ้งโลงมรณะเสีย
หากเปลี่ยนเป็นผู้ใดก็ตาม ล้วนแล้วแต่ละทิ้งโลงมรณะที่เป็นสุดยอดสมบัติสวรรค์ในหล้าไปไม่ได้ แต่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดกลับตัดสินใจเลือกได้ เนื่องจาก ณ เวลานี้สถานการณ์ได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยมีหลี่ชิเย่เป็นฝ่ายชนะ ถ้าหากเขาไม่ยอมสละทิ้งโลงมรณะเสีย ตัวเขาก็ต้องตกไปอยู่ในมือของหลี่ชิเย่เช่นเดียวกับโลงมรณะ
เมื่อไรที่ถูกสยบโดยหลี่ชิเย่ตกไปอยู่ในมือของเขา ผลที่ตามมาย่อมเกินจะคาดคิด!
………………………
